สารเสริมสำหรับใส่ gelato ที่แนะนำมีดังนี้
- สารให้ความคงตัว (Stabilizer) ช่วยให้ gelato มีเนื้อเนียน ฟู ละลายช้าลง ไม่แยกชั้น และช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สารให้ความคงตัวที่นิยมใช้ทำ gelato ได้แก่
- CMC (Carboxymethyl Cellulose) ทำให้ gelato มีเนื้อเนียน เกล็ดน้ำแข็งน้อย
- Guar Gum ทำให้ gelato มีเนื้อเหนียว หนืด
- Carrageenan ทำให้ gelato มีเนื้อแน่น หนืด
- อีมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ช่วยให้ส่วนผสมใน gelato เข้ากันได้ดี ไม่แยกชั้น อีมัลซิไฟเออร์ที่นิยมใช้ทำ gelato ได้แก่
- Monoglycerides and Diglycerides of Fatty Acids ทำให้ gelato มีเนื้อเนียน
- Lecithin ทำให้ gelato มีเนื้อเนียน ละลายช้าลง
สำหรับปริมาณการใช้สารเสริมใน gelato นั้น ขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสมที่ใช้ทำ โดยทั่วไปจะใช้สารให้ความคงตัวประมาณ 0.5-2% ของน้ำหนักของเหลวทั้งหมด และจะใช้อีมัลซิไฟเออร์ประมาณ 0.1-0.5% ของน้ำหนักของเหลวทั้งหมด
หากต้องการ gelato ที่มีเนื้อเนียน ฟู ละลายช้าลง ไม่แยกชั้น และช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แนะนำให้ใช้สารให้ความคงตัวและอีมัลซิไฟเออร์ร่วมกัน โดยอาจใช้ CMC และ Guar Gum ร่วมกัน หรือใช้ CMC และ Carrageenan ร่วมกันก็ได้ ปริมาณการใช้สารให้ความคงตัวและอีมัลซิไฟเออร์นั้น ขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสมที่ใช้ทำ gelato แนะนำให้ทดลองใช้ก่อนเพื่อหาปริมาณที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังมีสารเสริมอื่นๆ ที่อาจใช้ทำ gelato ได้ เช่น
- สารเพิ่มความหวาน (Sweetener) ช่วยให้ gelato มีรสชาติหวาน
- สารให้ความเปรี้ยว (Acidity Regulator) ช่วยให้ gelato มีรสชาติเปรี้ยว
- สี (Coloring) ช่วยให้ gelato มีสีสันสวยงาม
- กลิ่น (Flavoring) ช่วยให้ gelato มีกลิ่นหอม
การเลือกสารเสริมให้เหมาะสมกับสูตรและส่วนผสมที่ใช้ทำ gelato จะช่วยให้ได้ gelato ที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ตรงตามต้องการ