ข้อมูลสินค้า: อิริทริทอล เป็น น้ำตาลแอลกอฮอลล์ให้พลังงานแคลอรี่ต่ำ ที่ 0.2 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม (kCal/g) อิริทริทอลเมื่อละลายน้ำแล้วจะดูดความร้อน ทำให้รู้สึกเย็นเมื่อสัมผัสอิริทริทอล ไม่ทำให้ฟันผุ มักนิยมนำไปผสม ในสินค้าประเภท เครื่องดื่ม ดับกระหายและนิยมมากในกลุ่มที่รักษาสุขภาพ กลุ่มทำอาหารคีโต เบเกอรี่ ขนมเค้ก ลูกอมอิริทริทอล เป็นสารให้ความหวานที่มีรสชาติเหมือนน้ำตาลทรายมากที่สุด มีระดับความหวานอยู่ที่ 60-70% ของน้ำตาลทรายทำให้นำไปปรุงแต่งหรือใช้เป็นส่วนประกอบหารหรือเครื่องดื่มให้รสชาติที่ใกล้เคียงการใช้น้ำตาลทรายมากที่สุด คนที่ควบคุมรูปร่างหรือแม้แต่คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือกำลังมีความเสี่ยงต่อโรคนี้ด้วย

• อัตราการใช้: ไม่ควรใส่ในเครื่องดื่มแต่งกลิ่น เกิน 1.6% หากใช้มากเกินไปอาจส่งผลเป็นยาระบายได้ ,ทั้งนี้ปริมาณที่แนะนำให้ทานโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 20-35 กรัม/ต่อวัน เท่านั้น
• วิธีใช้: ใส่ในส่วนผสมเมื่อต้องการผสมหรือตีส่วนผสมให้เข้ากัน
• การเก็บรักษา: ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท ไม่มีความชื้นและแสงแดด ในอุณภูมิห้องปกติ
• แหล่งที่มา สินค้านำเข้า
• แหล่งกำเนิดสินค้า : ผลิตภัณฑ์จากจีน

Erythritol น้ำตาลทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยม

อิริทริทอลเป็นสารให้ความหวานชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของน้ำตาลแอลกอฮอล์ (Polyols) ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำตาล แต่ให้พลังงานน้อยกว่ามาก หรือเรียกได้ว่าเกือบจะเป็นศูนย์เลยทีเดียว ทำให้อิริทริทอลกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่มีโรคเบาหวาน

อิริทริทอลมีคุณสมบัติเด่นอย่างไรบ้าง?

• ความหวาน: มีความหวานประมาณ 60-70% ของน้ำตาลทราย ทำให้สามารถนำไปใช้แทนน้ำตาลในการปรุงอาหารและเครื่องดื่มได้
• พลังงานต่ำ: ให้พลังงานเพียงเล็กน้อย หรือเกือบจะเป็นศูนย์ จึงไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากนัก
• ดัชนีน้ำตาลต่ำ: ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล
• ไม่ก่อให้เกิดฟันผุ: เนื่องจากแบคทีเรียในช่องปากไม่สามารถย่อยสลายอิริทริทอลได้
• ปลอดภัย: มีการศึกษาและรับรองความปลอดภัยในการบริโภค

Erythritol มีแหล่งที่มาจากไหน?

อิริทริทอลพบได้ตามธรรมชาติในผลไม้บางชนิด เช่น องุ่น พีช แตงโม รวมถึงในเห็ดและอาหารหมักดองบางชนิด แต่ปัจจุบันอิริทริทอลที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากการหมักพืช เช่น ข้าวโพด

Erythritol มีประโยชน์อย่างไร?

• ควบคุมน้ำหนัก: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากให้พลังงานต่ำ
• โรคเบาหวาน: เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากนัก
• สุขภาพช่องปาก: ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ

มีข้อควรระวังในการบริโภคอิริทริทอลหรือไม่?

• ผลข้างเคียง: การบริโภคอิริทริทอลในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียได้
• ไม่ใช่น้ำตาล: อิริทริทอลไม่ใช่น้ำตาลที่ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้แทนน้ำตาลในอาหารทุกมื้อ
• ปริมาณที่เหมาะสม: ควรบริโภคอิริทริทอลในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรบริโภคมากเกินไป

สรุป

อิริทริทอล เป็นสารให้ความหวานทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่มีโรคเบาหวาน แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนการใช้งาน