โซเดียมอีริทอร์เบต , โซเดียมอิริทอร์เบต , รีกัลเบส : Sodium Erythorbate
แหล่งกำเนิด ประเทศ China
ชื่อทั่วไป โซเดียมอีริทอร์เบต , โซเดียมอิริทอร์เบต , รีกัลเบส : Sodium Erythorbate
ประเภทอาหาร วัตถุเจือปนอาหาร
ลักษณะสินค้า ผงผลึกสีขาว ละลายน้ำได้ดี
สูตรทางเคมี C₆H₇NaO₆ E-number คือ E316
การบรรจุและเก็บรักษา เก็บใส่ภาชนะปิดให้สนิทห่างจากความร้อน แสงแดด และความชื้น
ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานโซเดียมอีริทอร์เบต
- ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์ ปลา
- ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่
- ผลิตภัณฑ์ผัก-ผลไม้แปรรูป เช่น การดอง
- ผลิตภัณฑ์ประเภทแยม
- เครื่องดื่มน้ำอัดลม
- เครื่องดื่มน้ำผลไม้
- เครื่องดื่มที่มีการหมัก เช่น เบียร์
หน้าที่การใช้งานโซเดียมอีริทอร์เบต
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระแก่ผลิตภัณฑ์
- รักษาสีและรสชาติของผลิตภัณฑ์
- ป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
- รักษาความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์
- ยืดอายุการเก็บรักษา
ข้อมูลทั่วไปและการใช้งานโซเดียมอีริทอร์เบต
- สามารถใช้ได้ทั้งในน้ำหมัก เพื่อหมักเนื้อทั้งชิ้นในการทำแฮม เบคอนและในเนื้อหมักเพื่อทำไส้กรอก แต่นิยมใช้ในการทำไส้กรอกมากกว่า เพราะจะช่วยลดระยะเวลาในการทำให้ผลิตภัณฑ์มีสีชมพูคงทนไปได้มากทีเดียว
- ช่วยจำกัดไนไตรท์ส่วนเกิน และ ตรึงสี กันหืน
- ป้องกันการเกิดสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารอมะเร็งเพื่อให้ไนเทรตถูกรีดิวซ์ไปเป็นไนทริกออกไซด์(nitric oxide) ให้หมดไม่ตกต้าง ซึ่งจะเกิดเป็นไนโตรซามีน (nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง (cacinogen)
- พบว่าในการทำไส้กรอกพวกแฟรงค์เฟอเตอร์จะสามารถลดระยะเวลาลงไปได้ถึงหนึ่งในสาม เมื่อเติมโซเดียมอีริทอร์เบต สำหรับคุณสมบัติทางด้านการเป็นสารป้องกันการหืนของไขมัน ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เกิดการเหม็นหืน และยังช่วยให้เนื้อที่หั่นเป็นแผ่นบางๆ สีไม่ซีดเมื่อสัมผัสกับแสงสว่างและอากาศอีกด้วย
- โซเดียมอีริทอร์เบต (sodium erythorbate) เป็นเกลือโซเดียมของกรดอีริทอร์บิก (erythorbic acid) ซึ่งมีโครงสร้างเกี่ยวข้องกับกรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid) หรือวิตามินซี (vitamin C) ผลิตได้จากน้ำตาลทราย (sucrose) ที่ได้จาก อ้อย หัวบีท หรือจากสตาร์ซ (starch)
- อัตราส่วนผสมไม่เกิน 0.2 % หรือใส่ได้ไม่เกิน 2 กรัม ต่อน้ำหนักสินค้า 1 กิโลกรัม
โซเดียมอีริทอร์เบต (Sodium Erythorbate) หรือ โซเดียมอิริทอร์เบต (Sodium Erythrobate) หรือ รีกัลเบส (Regalbase)
เป็นสารเติมแต่งอาหารที่มีหมายเลขสารบบอาหาร 1342/2550 มีลักษณะเป็นผงสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ละลายน้ำได้ดี
โซเดียมอีริทอร์เบตมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องอาหารจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้อาหารมีสีหมองหรือเสียรสชาติ
- ช่วยให้เนื้อสัตว์มีสีแดงสดน่ารับประทาน
- ช่วยให้ผลิตภัณฑ์อาหารมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีขึ้น
โซเดียมอีริทอร์เบตมักใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป
เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ แหนม เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้ เครื่องดื่ม ขนมปัง เบเกอรี่
โซเดียมอีริทอร์เบตเป็นสารที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าไม่ควรบริโภคโซเดียมอีริทอร์เบตเกิน 0.7 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
ข้อควรระวังในการใช้โซเดียมอีริทอร์เบต
- ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 0.7 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- ไม่ควรใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับเด็กเล็ก
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโซเดียมอีริทอร์เบต
โดยสรุป โซเดียมอีริทอร์เบตเป็นสารเติมแต่งอาหารที่มีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโซเดียมอีริทอร์เบตมากเกินไป
ความแตกต่างระหว่างโซเดียมอีริทอร์เบตกับโซเดียมไนไตรท์
โซเดียมอีริทอร์เบตและโซเดียมไนไตรท์เป็นสารเติมแต่งอาหารที่มีการใช้ร่วมกันในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ แหนม เป็นต้น ทั้งสองสารมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาสีสันของเนื้อสัตว์ให้คงความเป็นสีแดงสดน่ารับประทาน อย่างไรก็ตาม โซเดียมอีริทอร์เบตเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ในขณะที่โซเดียมไนไตรท์เป็นสารกันบูด
นอกจากนี้ โซเดียมอีริทอร์เบตยังมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมของเนื้อสัตว์ ในขณะที่โซเดียมไนไตรท์มีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด เช่น คลอสตริเดียมบอทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโบทูลิซึม
ดังนั้น โซเดียมอีริทอร์เบตจึงมักใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปที่มีการใช้โซเดียมไนไตรท์ในปริมาณต่ำ เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ เป็นต้น ในขณะที่โซเดียมไนไตรท์มักใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปที่มีการใช้โซเดียมไนไตรท์ในปริมาณสูง เช่น แหนม เป็นต้น
สงสัยส่วนไหน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ line ID @ptkss.com (กด)