เกลือหิมาลายัน: เกลือชมพู ที่มากกว่าแค่เกลือ

เกลือหิมาลายัน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ เกลือสีชมพู เป็นเกลือธรรมชาติที่มีแหล่งกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศปากีสถาน ด้วยสีสันที่สวยงามและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เกลือชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้รักสุขภาพ

ทำไม เกลือหิมาลายัน ถึงพิเศษ?

• สีชมพูจากธรรมชาติ: สีชมพูของเกลือหิมาลายันเกิดจากแร่ธาตุเหล็กออกไซด์ (Iron Oxide) ที่ปนเปื้อนอยู่ในเกลือ ทำให้มีสีสันที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์
• อายุเก่าแก่: เชื่อกันว่าเกลือหิมาลายันมีอายุหลายล้านปี เกิดจากการระเหยของน้ำทะเลโบราณ ทำให้มีแร่ธาตุหลากหลายชนิดสะสมอยู่
• อุดมไปด้วยแร่ธาตุ: นอกจากโซเดียมคลอไรด์แล้ว เกลือหิมาลายันยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุอีกกว่า 84 ชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
• บริสุทธิ์: เกลือหิมาลายันผ่านกระบวนการผลิตที่น้อย ทำให้ปราศจากสารเคมีเจือปน

ประโยชน์ของเกลือชมพู

• ปรับสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย: ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ช่วยปรับปรุงคุณภาพของน้ำดื่ม: การเติมเกลือหิมาลายันลงในน้ำดื่มสามารถช่วยปรับปรุงรสชาติและคุณค่าทางอาหารของน้ำได้
• บำรุงผิวพรรณ: การใช้เกลือหิมาลายันในการอาบน้ำหรือสครับผิว สามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื้น
• ช่วยในการผ่อนคลาย: การอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นที่ผสมเกลือหิมาลายันสามารถช่วยผ่อนคลายร่างกายและลดความเครียด

วิธีการใช้ เกลือชมพู

• ปรุงอาหาร: นำมาใช้ปรุงรสอาหารต่างๆ แทนเกลือแกงทั่วไป เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร
• ทำอาหารเกาหลี: เป็นส่วนผสมสำคัญในการทำอาหารเกาหลีหลายชนิด เช่น กิมจิ
• บำรุงผิว: นำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวเพื่อทำสครับขัดผิว หรือผสมในผลิตภัณฑ์อาบน้ำ
• อาบน้ำ: ละลายเกลือหิมาลายันในน้ำอุ่นเพื่ออาบ ช่วยให้ผิวพรรณสะอาดและผ่อนคลาย

ตัวอย่างการใช้

นอกจากจะมีสรรพคุณทางสุขภาพแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบค่ะ ลองดูตัวอย่างเหล่านี้กันนะคะ

1. การปรุงอาหาร

• โรยบนอาหาร: ใช้โรยบนอาหารที่ปรุงสุกแล้ว เช่น สเต็ก ไข่เจียว หรือผักสลัด เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน
• ทำซอสหรือน้ำจิ้ม: นำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำซอสหรือน้ำจิ้มต่างๆ เช่น ซอสเทอริยากิ น้ำปลาพริก
• หมักเนื้อสัตว์: นำมาหมักกับเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู เพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้เนื้อนุ่ม
• ทำอาหารอบ: ใช้โรยบนอาหารก่อนนำเข้าอบ เช่น ปลาอบ หรือเนื้ออบ เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน

2. บำรุงผิวพรรณ

• สครับผิว: ผสมเกลือชมพูกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำผึ้ง เพื่อทำสครับขัดผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้ผิวเนียนนุ่ม
• อาบน้ำ: ละลายเกลือชมพูลงในน้ำอุ่นเพื่ออาบ ช่วยผ่อนคลายร่างกายและลดความเครียด
• ทำมาส์กหน้า: ผสมเกลือชมพูกับน้ำผึ้งและโยเกิร์ต เพื่อทำมาส์กหน้า ช่วยลดสิวและทำให้ผิวกระจ่างใส

3. อื่นๆ

• ทำน้ำดื่ม: ละลายเกลือชมพูเล็กน้อยลงในน้ำดื่ม เพื่อเพิ่มแร่ธาตุและปรับสมดุลของร่างกาย
• ทำเทียนหอม: ผสมเกลือชมพูลงในเทียนหอม เพื่อเพิ่มความสวยงามและกลิ่นหอม
• ตกแต่งบ้าน: นำเกลือชมพูมาใส่ในขวดแก้วใส หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งห้อง

ข้อควรระวัง:

• ปริมาณ: แม้ว่าเกลือชมพูจะมีประโยชน์ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เพราะโซเดียมในเกลือสามารถส่งผลต่อความดันโลหิตได้
• ความสะอาด: ควรเลือกซื้อเกลือชมพูจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทำความสะอาดภาชนะที่บรรจุเกลืออย่างสม่ำเสมอ

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• ลองผิดลองถูก: การใช้เกลือชมพูในการปรุงอาหารหรือบำรุงผิวพรรณนั้นสามารถทดลองได้หลากหลายวิธี ลองปรับสูตรตามความชอบของคุณเอง
• สังเกตปฏิกิริยาของร่างกาย: หากมีอาการแพ้หรือไม่สบายหลังจากใช้เกลือชมพู ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์

ตัวอย่างเมนูอาหารที่ใช้เกลือชมพู:

• สเต็กปลาแซลมอนโรยเกลือชมพู: เพิ่มรสชาติเค็มกลมกล่อมและสีสันสวยงาม
• ผักย่างราดน้ำมันมะกอกและเกลือชมพู: รสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
• สลัดผักโรยเกลือชมพู: เพิ่มรสชาติและความสดชื่นให้กับสลัด

สรุป

เกลือหิมาลายัน เกลือชมพู เป็นเกลือธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งการปรุงอาหารและการบำรุงสุขภาพ แม้ว่าจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เพราะโซเดียมในเกลือสามารถส่งผลต่อความดันโลหิตได้

เช็คสินค้า กลุ่มเกลือ (กด)

สั่งซื้อหรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ line ID @ptkss.com (กด)