Table of Contents
Toggleแจกสูตรน้ำจิ้มแซ่บ
น้ำจิ้มแซ่บ ถือเป็นหัวใจสำคัญของอาหารไทยหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น หมูกระทะ, ซีฟู้ดย่าง, ลูกชิ้นทอด, หรือแม้กระทั่ง ไก่ย่าง ถ้าน้ำจิ้มอร่อยเมื่อไหร่ รับรองว่าอาหารมื้อนั้นฟินแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยค่ะ วันนี้เรารวบรวม สูตรน้ำจิ้มแซ่บ หลากหลายสไตล์ ที่คุณสามารถทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ และที่สำคัญ…แซ่บถึงใจแน่นอน!
ทำไมต้องมีน้ำจิ้มดี ๆ?
น้ำจิ้มที่ดีช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร ทำให้อาหารมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น อีกทั้งน้ำจิ้มบางสูตรยังช่วยตัดเลี่ยน ทำให้กินได้เพลินขึ้น บางคนอาจคิดว่าน้ำจิ้มยาก แต่จริง ๆ แล้ว น้ำจิ้มบางสูตรทำง่าย ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง และใช้เวลาไม่นาน
1.สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ
ส่วนผสม:
-
พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ปรับตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียม 5-6 กลีบ
-
รากผักชี 2 ราก (ถ้าไม่มีไม่ใส่ก็ได้)
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา (หรือ น้ำตาลทราย)
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีซอย (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ:
-
โขลกพริกขี้หนูสวน กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด (ถ้าไม่ชอบเผ็ดมากก็โขลกหยาบ ๆ)
-
ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
-
ชิมรสชาติ ปรับเพิ่มความเปรี้ยว หวาน หรือเค็มตามชอบ
-
ใส่ผักชีซอยเพื่อความหอม และพร้อมเสิร์ฟ
Tips
-
ใช้มะนาวสดเพื่อความเปรี้ยวที่สดชื่นและหอม
-
น้ำตาลปี๊บช่วยเพิ่มความหวานแบบเข้มข้น แต่ถ้าไม่มีใช้น้ำตาลทรายธรรมดาได้
-
ปรับความเผ็ดได้ตามชอบ จะโขลกพริกละเอียดหรือหยาบก็ได้
-
ถ้าชอบกลิ่นหอมขึ้น ให้ใส่รากผักชีโขลกลงไปด้วย
-
สามารถเติมน้ำมะขามเปียกเล็กน้อยเพื่อความเปรี้ยวแบบกลมกล่อม
2.สูตรน้ำจิ้มแจ่ว
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกป่น 1-2 ช้อนชา (ปรับตามชอบเผ็ด)
-
หอมแดงซอย 2-3 หัว
-
ผักชีฝรั่งซอย (ถ้าชอบ)
-
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา (ถ้าชอบหวานนิด ๆ)
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทรายลงในถ้วยคนให้เข้ากัน
-
ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น และหอมแดงซอยลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
-
ชิมรสชาติ ปรับเพิ่มเปรี้ยว หวาน หรือเค็มตามชอบ
-
ใส่ผักชีฝรั่งซอยตอนสุดท้ายเพื่อเพิ่มความหอม
-
พร้อมเสิร์ฟคู่กับอาหารอีสานอย่างลาบ ส้มตำ หรือเนื้อย่าง
Tips
-
ข้าวคั่วควรใช้ข้าวคั่วที่คั่วเองจะหอมมากกว่าซื้อสำเร็จ
-
หอมแดงซอยควรแช่น้ำเย็นสักครู่เพื่อลดความเผ็ดและความฉุน
-
ปรับปริมาณพริกป่นตามความชอบได้เลย
-
น้ำตาลช่วยเพิ่มมิติรสชาติแต่ไม่ควรใส่มากเกินไป
3.สูตรน้ำจิ้มสุกี้
ส่วนผสม:
-
น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว (เต้าเจี้ยวแบบหวาน) 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
-
พริกสดสับ (หรือพริกขี้หนูสับ) 1-2 เม็ด (ปรับตามชอบ)
-
งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ (ปรับความข้นเหลว)
-
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนชา (ถ้ามี)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย
-
ใส่กระเทียมสับและพริกสดลงไป คนให้เข้ากัน
-
เติมน้ำเปล่าทีละน้อยจนได้ความข้นเหลวตามชอบ
-
ใส่งาคั่วและซีอิ๊วดำหวาน คลุกเคล้าเบา ๆ
-
ชิมรสชาติ ปรับเพิ่มหวาน เปรี้ยว หรือเผ็ดตามชอบ
-
พร้อมเสิร์ฟทานกับหม้อสุกี้ น้ำซุป และของสดต่าง ๆ
Tips
-
เต้าเจี้ยวแบบหวานจะช่วยเพิ่มรสชาติหวานเค็มอย่างลงตัว
-
งาคั่วช่วยเพิ่มความหอมมันและเท็กซ์เจอร์
-
ถ้าชอบเผ็ดจัดเพิ่มพริกสดหรือพริกน้ำส้มได้
-
เติมน้ำเปล่าให้พอดีเพื่อไม่ให้จิ้มแล้วข้นเกินไป หรือละลายจนเกินไป
4.สูตรน้ำจิ้มหมูกระทะง่าย ๆ
ส่วนผสม:
-
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำจิ้มไก่ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
-
พริกสดสับ (ถ้าชอบเผ็ด) 1-2 เม็ด
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามความข้น)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำพริกเผา น้ำจิ้มไก่ น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาวลงในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย
-
ใส่กระเทียมสับและพริกสดสับลงไป คนให้เข้ากัน
-
เติมน้ำเปล่าทีละน้อยจนได้น้ำจิ้มข้นเหลวตามชอบ
-
ชิมรสชาติ ปรับเปรี้ยว หวาน หรือเผ็ดตามชอบ
-
เสิร์ฟคู่กับหมูกระทะ ปิ้งย่างต่าง ๆ
Tips
-
น้ำพริกเผาให้รสชาติหวานมันและเผ็ดกำลังดี
-
น้ำจิ้มไก่ช่วยเพิ่มความหวานกลมกล่อม
-
ปรับความข้นของน้ำจิ้มด้วยน้ำเปล่าตามชอบ
-
เพิ่มพริกสดหรือกระเทียมตามใจชอบเพื่อความจัดจ้าน
5.สูตรน้ำจิ้มไก่
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
-
พริกขี้หนูสับ (ถ้าชอบเผ็ด) 1-2 เม็ด
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่าลงในหม้อ คนให้เข้ากันแล้วตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด และน้ำจิ้มเดือด
-
ปิดไฟ แล้วเติมซีอิ๊วขาวลงไป คนให้เข้ากัน
-
ใส่กระเทียมสับและพริกขี้หนูสับ คนเบา ๆ
-
รอให้น้ำจิ้มเย็นก่อนเสิร์ฟ จะได้รสชาติกลมกล่อม
Tips
-
ถ้าอยากได้น้ำจิ้มใส ๆ ให้กรองก่อนใส่กระเทียมกับพริก
-
ปรับความหวานหรือเปรี้ยวตามชอบได้เลย
-
น้ำจิ้มไก่นี้เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 สัปดาห์
6.สูตรน้ำจิ้มซีอิ๊วดำหวาน
ส่วนผสม:
-
ซีอิ๊วดำหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือ น้ำตาลทราย)
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูซอย (ถ้าชอบเผ็ด) 1-2 เม็ด
วิธีทำ:
-
ใส่ซีอิ๊วดำหวาน น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าลงในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย
-
ชิมรสชาติ ปรับเพิ่มความหวานหรือเปรี้ยวตามชอบ
-
ใส่พริกขี้หนูซอย คนเบา ๆ
-
เสิร์ฟคู่กับหมูปิ้ง หมูสะเต๊ะ หรือของปิ้งย่างต่าง ๆ
Tips
-
น้ำมะนาวช่วยเพิ่มความเปรี้ยวสดชื่น
-
น้ำตาลปี๊บให้ความหวานเข้มข้น แต่ถ้าไม่มีใช้น้ำตาลทรายแทนได้
-
พริกขี้หนูสดเพิ่มความเผ็ดและสีสัน
-
สามารถเก็บในตู้เย็นได้ 3-5 วัน
7.สูตรน้ำจิ้มบ๊วย
ส่วนผสม:
-
น้ำบ๊วยดอง 4 ช้อนโต๊ะ
-
บ๊วยดอง 1-2 ผล (เอาเมล็ดออก บดละเอียด)
-
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
-
เกลือเล็กน้อย
-
พริกชี้ฟ้าแดงซอยบาง (ใส่เพิ่มสีสันและความเผ็ดนิด ๆ ถ้าชอบ)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำบ๊วยดอง น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และเกลือลงในหม้อ
-
คนให้เข้ากันแล้วตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนเริ่มข้นเล็กน้อย
-
ใส่เนื้อบ๊วยดองที่บดละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน
-
ปิดไฟ พักให้เย็น
-
ใส่พริกชี้ฟ้าซอยลงเพิ่มถ้าชอบเผ็ดนิด ๆ
-
เสิร์ฟคู่กับของทอดหรือเมนูที่ต้องการ
Tips
-
เลือกใช้บ๊วยดองคุณภาพดี น้ำบ๊วยจะหอมหวานไม่เปรี้ยวจัด
-
ถ้าอยากได้น้ำจิ้มใส ๆ ไม่ใส่เนื้อบ๊วยก็ได้
-
เคี่ยวไฟอ่อน อย่าให้เดือดจัด น้ำจิ้มจะเสียรส
-
เก็บในตู้เย็นได้นาน 1-2 สัปดาห์
8.สูตรน้ำจิ้มพริกเผา
ส่วนผสม:
-
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ)
-
พริกขี้หนูซอย 1-2 เม็ด (ตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
-
น้ำเปล่า 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับความข้นตามชอบ)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลเข้าด้วยกันในถ้วย
-
คนจนน้ำตาลละลายหมด
-
เติมกระเทียมสับและพริกขี้หนูซอย
-
เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ถ้าอยากให้น้ำจิ้มเหลวขึ้น
-
ชิมรส ปรับเปรี้ยว หวาน เค็มตามชอบ
-
พร้อมเสิร์ฟ!
เคล็ดลับ:
-
ใช้น้ำพริกเผาที่หอม ไม่เค็มหรือหวานเกินไป
-
ถ้าชอบความมัน เพิ่มน้ำมันพริกเผาลงเล็กน้อย
-
สำหรับน้ำจิ้มปลานึ่งหรือซีฟู้ด ใส่ขิงซอยหรือขิงขูดเพิ่มได้ จะช่วยตัดคาว
9.สูตรน้ำจิ้มหวานสำหรับของทอด
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
-
น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย
-
เกลือ 1/2 ช้อนชา
-
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกชี้ฟ้าแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (หรือพริกขี้หนูสดถ้าชอบเผ็ด)
-
แป้งมันละลายน้ำ 1 ช้อนชา (เพิ่มความข้น)
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า และเกลือลงหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนให้ส่วนผสมละลายดี รอจนเดือด
-
ใส่กระเทียมสับและพริกสับลงไป เคี่ยวต่อประมาณ 2-3 นาที
-
เติมแป้งมันที่ละลายน้ำแล้ว คนให้เข้ากันจนข้นใส
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:
-
ถ้าไม่อยากให้เผ็ด ให้ลดพริกลง หรือไม่ใส่เลยก็ได้ จะเป็นแบบ “น้ำจิ้มไก่หวาน”
-
ถ้าอยากได้แบบสำเร็จรูปเก็บได้นาน เคี่ยวให้ข้นจัด แล้วเก็บในขวดสะอาดแช่เย็น จะอยู่ได้ 2-3 สัปดาห์
-
เพิ่มกลิ่นหอมได้โดยการใส่รากผักชีตำละเอียดลงไปเล็กน้อยตอนเคี่ยว
10.สูตรน้ำจิ้มซีอิ๊วขาว (แบบง่าย)
ส่วนผสม:
-
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
-
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
-
พริกขี้หนูซอย 1-2 เม็ด (ถ้าชอบเผ็ด)
-
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
-
ขิงซอยหรือขิงขูด (ใส่ได้ถ้าทานกับไก่สับ)
-
ต้นหอมซอย (โรยหน้า เพิ่มกลิ่นหอม)
วิธีทำ:
-
ผสมซีอิ๊วขาว น้ำตาล และน้ำเปล่าในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย
-
เติมน้ำส้มสายชู กระเทียมสับ และพริกซอยลงไป
-
คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (เปรี้ยวเค็มเล็กน้อย)
-
ใส่ขิงซอยหรือต้นหอมซอยถ้าต้องการ
-
เสิร์ฟได้ทันที
เคล็ดลับ:
-
ถ้าอยากได้รสหวานนิด ๆ สำหรับเด็ก ให้เติมน้ำจิ้มไก่ลงไปเล็กน้อย
-
ถ้าไม่ชอบกระเทียมสด สามารถใช้น้ำกระเทียมดองแทนได้
-
สำหรับติ่มซำแบบจีนฮ่องกง มักจะใส่น้ำมันงาหยดลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
11.สูตรน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว
ส่วนผสม:
-
เต้าเจี้ยวเม็ด (บดหยาบ) 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลทราย)
-
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 3-5 เม็ด (ตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
รากผักชีตำละเอียด 1 ราก (ถ้ามี)
-
น้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ (ปรับความข้นตามชอบ)
-
ขิงซอยเล็กน้อย (ใส่เพิ่มความหอม ถ้าทานกับปลา)
วิธีทำ:
-
โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้พอหยาบ (หรือใช้สับก็ได้)
-
ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะนาว
-
เติมน้ำเปล่าทีละน้อย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
-
ชิมรสชาติ ควรได้เค็มนำ เปรี้ยวหวานตาม และเผ็ดเล็กน้อย
-
โรยขิงซอย (ถ้าใช้) แล้วเสิร์ฟได้เลย
เคล็ดลับ:
-
ใช้เต้าเจี้ยวชนิดเม็ด จะให้รสชาติและกลิ่นหอมกว่าแบบบด
-
ถ้าชอบเนื้อสัมผัสละเอียด ให้ปั่นรวมทุกอย่างแทนการโขลก
-
น้ำจิ้มนี้เข้ากับเมนู “ปลานึ่งมะนาว”, “หมูจุ่ม”, หรือ “ผักลวก” ได้ดีมาก
12.สูตรน้ำจิ้มแจ่วไก่ย่าง (แบบดั้งเดิมอีสาน)
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา (หรือน้ำตาลทราย)
-
พริกป่น 1 ช้อนชา (หรือมากกว่านี้ตามชอบเผ็ด)
-
ข้าวคั่ว 1 – 1½ ช้อนโต๊ะ
-
หอมแดงซอย 1 หัว
-
ผักชีฝรั่งซอย (หรือต้นหอมผักชีซอยเล็กน้อย)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลาย
-
เติมพริกป่นและข้าวคั่วลงไป คนให้เข้ากัน
-
ใส่หอมแดงซอย และผักชีฝรั่งซอยลงไป
-
ชิมรสชาติ ปรับเปรี้ยว-หวาน-เผ็ดตามชอบ
-
เสิร์ฟคู่กับ ไก่ย่าง, หมูย่าง, หรือ ลาบ-น้ำตก ก็เข้ากันสุด ๆ
เคล็ดลับ:
-
ข้าวคั่วให้คั่วเองจากข้าวเหนียวดิบ จะหอมกว่าซื้อสำเร็จรูป
-
พริกป่นอีสาน (แบบคั่ว) จะหอมและเผ็ดร้อนมากกว่าพริกบดทั่วไป
-
ถ้าอยากได้กลิ่นควัน ๆ หอมย่าง สามารถเติมน้ำปลาร้านิดหน่อย (เฉพาะคนชอบแนวอีสานแท้)
14.สูตรน้ำจิ้มข้าวมันไก่ (ต้นตำรับ)
ส่วนผสม:
-
เต้าเจี้ยวบด 2 ช้อนโต๊ะ
-
ขิงแก่สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสวนสับ 1-2 ช้อนชา (ตามชอบเผ็ด)
-
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำต้มสุกหรือน้ำซุปไก่ 2-3 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความหอมและละลายรส)
วิธีทำ:
-
เตรียมโถปั่นหรือครก ใส่ขิง กระเทียม และพริก โขลกหรือปั่นให้ละเอียด
-
เติมเต้าเจี้ยว ซีอิ๊วขาว น้ำตาล น้ำส้มสายชู และน้ำซุป คนให้เข้ากัน
-
ชิมรส ปรับตามชอบ (รสชาติควรออกเค็ม เปรี้ยว หวาน เผ็ดพอดี)
-
ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟกับข้าวมันไก่
เคล็ดลับ:
-
ใช้ เต้าเจี้ยวสีอ่อน จะได้รสชาตินุ่มนวล กลิ่นไม่แรงเกินไป
-
ขิงช่วยตัดเลี่ยนไก่ และเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัว
-
ถ้าไม่อยากปั่น ใช้สับละเอียดและคนรวมกันก็ได้
-
ถ้าทำขาย: ปั่นครั้งเดียวแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-5 วัน
15.สูตรน้ำจิ้มสลัด (น้ำสลัดครีมสไตล์ไทย)
ส่วนผสม:
-
ไข่แดงต้มสุก 2 ฟอง
-
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
-
เกลือ 1/2 ช้อนชา
-
น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
-
นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
-
พริกไทยขาวป่นเล็กน้อย (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ:
-
บดไข่แดงต้มให้ละเอียดในชามผสม
-
ใส่น้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู และนมข้นหวาน คนให้เข้ากันจนเนียน
-
ค่อย ๆ เติมน้ำมันพืชทีละนิด แล้วคนหรือใช้เครื่องปั่นความเร็วต่ำให้เนื้อข้นและเนียน
-
ใส่พริกไทยเล็กน้อย ชิมรส ปรับหวาน/เปรี้ยวตามชอบ
-
เทใส่ขวดหรือภาชนะ เก็บในตู้เย็นได้ 5–7 วัน
เคล็ดลับ:
-
ใช้น้ำมันคาโนลาหรือน้ำมันรำข้าว จะได้กลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสดี
-
ถ้าอยากได้น้ำสลัดแบบใส (น้ำจิ้มสลัดญี่ปุ่น / วินิแกรตต์) ก็บอกได้นะคะ
-
อย่าใช้ไฟในการทำ เพราะเป็นน้ำสลัดเย็น คนให้เข้ากันพอ
16.สูตรน้ำจิ้มบาร์บีคิว (BBQ Sauce แบบไทยประยุกต์)
ส่วนผสม:
-
ซอสมะเขือเทศ 5 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ (หรือใช้น้ำผึ้งแทน)
-
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกไทยดำป่น 1/2 ช้อนชา
-
ผงกระเทียม 1/2 ช้อนชา (หรือกระเทียมสดสับละเอียด)
-
ผงปาปริก้า 1/2 ช้อนชา (ใส่เพิ่มสีและกลิ่นรมควัน)
-
น้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ (ปรับความข้นตามชอบ)
-
(ถ้ามี) ซอสวูสเตอร์ 1 ช้อนชา หรือผงมัสตาร์ดเล็กน้อย จะหอมมาก
วิธีทำ:
-
ใส่ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำตาล ซีอิ๊วขาว และเครื่องปรุงอื่น ๆ ลงในหม้อ
-
เติมน้ำเปล่า แล้วคนให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อน ๆ
-
เคี่ยวให้ซอสข้น (ประมาณ 5-10 นาที) และคนบ่อย ๆ
-
ปิดไฟ พักให้เย็น แล้วใช้เป็นน้ำจิ้มหรือหมักได้เลย
เคล็ดลับ:
-
ถ้าอยากได้กลิ่น รมควัน แนะนำให้ใส่ ผงปาปริก้ารมควัน หรือใช้ซอส BBQ สำเร็จรูปผสมลงไปนิดหน่อย
-
สำหรับ หมักเนื้อย่าง ใช้สูตรเดียวกันนี้ เพิ่มน้ำมันพืชเล็กน้อย
-
ซอสนี้เก็บในขวดสะอาด แช่ตู้เย็นได้ 1–2 สัปดาห์
17.สูตรน้ำจิ้มแจ่วหมูย่าง (สูตรดั้งเดิม)
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา (หรือน้ำตาลทราย)
-
พริกป่น 1 ช้อนชา (หรือมากกว่าตามชอบ)
-
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-
หอมแดงซอย 1 หัว
-
ผักชีฝรั่งซอย / ต้นหอมซอย เล็กน้อย (เพิ่มกลิ่นหอม)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย
-
เติมพริกป่นและข้าวคั่วลงไป คนให้เข้ากัน
-
ใส่หอมแดงซอยและผักชีฝรั่งหรือต้นหอมซอยลงไป
-
ชิมรสตามชอบ — เปรี้ยว เค็ม หอม เผ็ด ลงตัว
-
เสิร์ฟพร้อม หมูย่าง ข้าวเหนียว หรือผักสด ๆ
เคล็ดลับ:
-
ข้าวคั่ว ควรคั่วเองจากข้าวเหนียวแล้วโขลก จะหอมมากกว่าซื้อสำเร็จ
-
ถ้าชอบรสเข้มข้นแบบอีสานแท้ ๆ ใส่น้ำปลาร้าต้มสุกลงไป 1 ช้อนโต๊ะได้เลย
-
สูตรนี้ใช้กับ “ลาบ”, “น้ำตก”, หรือ “คอหมูย่าง” ก็อร่อยเหมือนกัน
18.สูตรน้ำจิ้มส้มตำ (น้ำส้มตำรสแซ่บ)
ส่วนผสม:
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบหวาน)
-
กระเทียมสด 3 กลีบ
-
พริกขี้หนูสด 5-8 เม็ด (ตามชอบเผ็ด)
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ (ลดความเปรี้ยวและเพิ่มความกลมกล่อม)
-
ถั่วลิสงคั่วบด (โรยหน้าเวลาทาน)
วิธีทำ:
-
โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูจนละเอียด (หรือสับละเอียดแทนได้)
-
ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
-
เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย เพื่อปรับรสชาติให้กลมกล่อม
-
ชิมรสชาติต้องเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ครบ
-
เสิร์ฟพร้อมส้มตำและโรยถั่วลิสงคั่วบดด้านบน
เคล็ดลับ:
-
ใช้น้ำมะนาวสดจะได้รสเปรี้ยวสดชื่นกว่า
-
ปรับปริมาณพริกตามความเผ็ดที่ชอบ
-
ถ้าชอบรสจัดจ้านขึ้น เติมกระเทียมและพริกเพิ่มได้
-
สามารถเติมน้ำปลาเพิ่มได้หากชอบเค็มขึ้น
19.สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ผักชี
ส่วนผสม:
-
พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ปรับตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมกลีบเล็ก 10 กลีบ
-
รากผักชี 2 ราก
-
ผักชี (ใช้ทั้งต้นรวมราก) 1-2 ต้น
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-
น้ำต้มสุกเย็น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าต้องการเจือจางรสจัด)
วิธีทำ:
-
ใส่พริกขี้หนู กระเทียม รากผักชี และผักชีลงในครก หรือเครื่องปั่น
-
โขลกหรือปั่นพอหยาบ (ไม่ต้องละเอียดมาก ให้มีเนื้อบ้าง)
-
เติมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทรายลงไป
-
คนหรือปั่นเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง
-
ชิมรสให้เปรี้ยวนำ เค็มตาม และเผ็ดจัดจ้าน หอมกลิ่นผักชี
-
เทใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีซอยเพิ่มอีกนิด พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:
-
ใช้ผักชีไทย (ใบเล็ก กลิ่นแรง) จะหอมเป็นพิเศษ
-
ถ้าอยากได้น้ำจิ้มเขียวใส ๆ ใช้น้ำต้มสุกแทนเครื่องปั่นหนัก ๆ จะได้สีสวย
-
ถ้าทำขายหรือทำเก็บไว้: ให้ต้มส่วนผสมน้ำปลากับน้ำตาลก่อน พักให้เย็น แล้วค่อยปั่นรวมกับของสด
20.สูตรน้ำจิ้มกะปิ (แบบตำสด)
ส่วนผสม:
-
กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ปรับตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมสด 5 กลีบ
-
น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ (เปรี้ยวตามชอบ)
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลทราย)
-
น้ำต้มสุก 1-2 ช้อนโต๊ะ (ช่วยละลายและเจือรส)
วิธีทำ:
-
โขลกพริกขี้หนูและกระเทียมให้ละเอียดในครก
-
ใส่กะปิตามลงไป โขลกให้เข้ากัน
-
เติมน้ำตาลปี๊บและน้ำมะนาว แล้วคนให้เข้ากัน
-
เติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย คนให้น้ำจิ้มละลาย รสไม่จัดเกินไป
-
ชิมรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานพอดี
-
พร้อมเสิร์ฟกับปลาทูทอด ผักลวก หรือข้าวสวยร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้กะปิอย่างดีจากระยองหรือชุมพร กลิ่นจะหอมไม่คาว
-
ถ้าชอบกลิ่นไหม้ ๆ ให้เอากะปิห่อใบตองแล้ว ย่างไฟอ่อน ก่อนนำไปตำ
-
สามารถใส่มะม่วงซอยหรือขิงซอยเล็กน้อย เพิ่มรสซ่าก็ได้
21.สูตรน้ำจิ้มหมูย่าง (แจ่วอีสาน)
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา (หรือน้ำตาลทราย)
-
พริกป่น 1 ช้อนชา (หรือมากกว่าตามชอบเผ็ด)
-
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-
หอมแดงซอย 1 หัว
-
ผักชีฝรั่งซอย หรือใบสะระแหน่ (ถ้ามี)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลให้เข้ากัน
-
เติมพริกป่นและข้าวคั่ว คนให้ละลายดี
-
ใส่หอมแดงซอย และผักชีฝรั่งซอยลงไป
-
ชิมรส: เปรี้ยวนำ เค็มตาม เผ็ดหอมกลมกล่อม
-
เสิร์ฟคู่กับ หมูย่าง, คอหมูย่าง, หรือ ข้าวเหนียวร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้ข้าวเหนียวคั่วเองใหม่ ๆ แล้วบดหยาบ ๆ จะหอมกว่าแบบซื้อสำเร็จ
-
ใส่น้ำปลาร้าต้มสุกเล็กน้อย (1/2 ช้อนโต๊ะ) จะเพิ่มกลิ่นหอมและรสอีสานแท้
-
ถ้าชอบรสกลมกล่อมนุ่มนวล ให้ใช้น้ำตาลปี๊บแทนน้ำตาลทราย
22.สูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ (น้ำจิ้มถั่วลิสง)
ส่วนผสม:
-
ถั่วลิสงคั่วบด 1 ถ้วย
-
กะทิ 1 ถ้วย
-
พริกแกงเผ็ด 1–2 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ความเผ็ดที่ชอบ)
-
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
-
เกลือเล็กน้อย
-
น้ำมะขามเปียก 1–2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มรสเปรี้ยวตัดมัน)
วิธีทำ:
-
ตั้งกระทะ เปิดไฟกลาง ใส่กะทิลงไปเคี่ยวจนแตกมันเล็กน้อย
-
ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดกับกะทิให้หอม
-
เติมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และเกลือ คนให้ละลาย
-
ใส่ถั่วลิสงบดลงไป คนให้เข้ากันจนข้น
-
เติมน้ำมะขามเปียก แล้วชิมรสให้ หวาน มัน เค็ม และเปรี้ยวนิด ๆ
-
เคี่ยวต่ออีกนิดจนซอสข้นดี ปิดไฟ พักให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:
-
ถั่วลิสงควรคั่วเองแล้วบด จะหอมกว่าถั่วบดสำเร็จรูป
-
ถ้าชอบเนื้อเนียน ให้ปั่นซอสด้วยเครื่องปั่นก่อนตักใส่ถ้วย
-
เก็บในตู้เย็นได้ 3–5 วัน อุ่นใหม่ก่อนใช้ จะได้รสชาติเข้มข้นเหมือนเดิม
-
เสิร์ฟพร้อม หมูสะเต๊ะ + อาจาด (แตงกวาดองหวาน) จะอร่อยครบสูตร
23.สูตรน้ำจิ้มลูกชิ้น (สไตล์ไทยหวานเผ็ด)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ (หรือน้อยกว่าสำหรับเด็ก)
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
(ถ้าชอบ) แป้งมันละลายน้ำเล็กน้อย สำหรับเพิ่มความข้น
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่าลงหม้อ
-
เปิดไฟกลาง เคี่ยวจนเดือดและน้ำตาลละลายดี
-
ใส่กระเทียมสับ และพริกป่นลงไป คนให้เข้ากัน
-
(ถ้าต้องการข้น) เติมแป้งมันละลายน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วคนจนข้น
-
ชิมรส: หวานนำ เปรี้ยว เค็ม และเผ็ดปลายลิ้น
-
ปิดไฟ พักให้เย็น พร้อมเสิร์ฟคู่ลูกชิ้นทอดร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ถ้าใช้ น้ำมะขามเปียกแทนน้ำส้มสายชู จะได้รสเปรี้ยวนุ่มและกลมกล่อม
-
ถ้าเด็กกิน แนะนำลดพริก และเพิ่มน้ำตาลให้หวานขึ้น
-
เก็บใส่ขวดสะอาดแช่เย็นได้ 1 สัปดาห์
24.สูตรน้ำจิ้มไก่ทอด (แบบหวานเผ็ด)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
-
น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
-
น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
-
เกลือ ½ ช้อนชา
-
พริกชี้ฟ้าแดงสด 2 เม็ด (หรือพริกขี้หนูสำหรับเผ็ดจัด)
-
กระเทียมกลีบเล็ก 4 กลีบ
วิธีทำ:
-
ปั่นพริกและกระเทียมรวมกันให้ละเอียด (ใช้พริกแดงจะได้น้ำจิ้มสีสวย)
-
เทน้ำเปล่า น้ำส้มสายชู น้ำตาล และเกลือลงในหม้อ
-
ใส่พริกกระเทียมที่ปั่นแล้วลงไป ตั้งไฟกลาง
-
เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายหมด และน้ำจิ้มข้นเหนียวเล็กน้อย (ประมาณ 7–10 นาที)
-
ปิดไฟ พักให้เย็น น้ำจิ้มจะข้นขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อเย็น
-
พร้อมเสิร์ฟคู่ไก่ทอด ไก่ป๊อป หรือของทอดอื่น ๆ ได้เลย!
เคล็ดลับ:
-
ถ้าอยากได้เนื้อสัมผัสละเอียดใส: กรองน้ำจิ้มหลังเคี่ยว
-
อยากเผ็ดมากขึ้น: เพิ่มพริกขี้หนูสดแทนพริกชี้ฟ้า
-
เก็บในขวดสะอาด แช่ตู้เย็นได้ 1–2 สัปดาห์
25.สูตรน้ำจิ้มปอเปี๊ยะทอด (น้ำจิ้มเปรี้ยวหวานใส)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
-
น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
-
น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
-
เกลือป่น ½ ช้อนชา
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกชี้ฟ้าสีแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ได้ ถ้าต้องการแบบไม่เผ็ด)
-
แป้งมัน 1 ช้อนชา + น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับละลาย)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำตาล น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า และเกลือในหม้อ คนให้เข้ากัน
-
ใส่กระเทียมและพริกลงไป ตั้งไฟกลาง
-
เคี่ยวจนเดือดและน้ำตาลละลายหมด
-
เติมแป้งมันที่ละลายน้ำไว้ลงไป คนตลอดเวลาจนซอสข้น
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:
-
ใช้ พริกชี้ฟ้าสีแดง จะช่วยให้น้ำจิ้มสีสวยน่ากิน
-
ถ้าไม่ชอบเผ็ดเลย สามารถ งดพริก ได้ น้ำจิ้มจะหวานเปรี้ยวแบบเด็กกินได้
-
ถ้าชอบกลิ่นหอมสมุนไพร เพิ่ม ผักชีสับ เล็กน้อยตอนเสิร์ฟก็ได้นะคะ
26.สูตรน้ำจิ้มหมูกรอบ (แบบเปรี้ยวหวานกลมกล่อม)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูแดงสับ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือลดได้ตามชอบ)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
แป้งมัน 1 ช้อนชา (ละลายน้ำ) – สำหรับเพิ่มความข้นเล็กน้อย
วิธีทำ:
-
เทน้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู น้ำปลา ซีอิ๊วดำหวาน และน้ำเปล่าลงหม้อ
-
เปิดไฟกลาง คนให้น้ำตาลละลาย
-
ใส่กระเทียมและพริกลงไป เคี่ยวจนเริ่มข้น
-
เติมแป้งมันละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากันจนซอสข้นเหนียว
-
ปิดไฟ พักให้เย็น ชิมรสให้ เปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย
-
พร้อมเสิร์ฟกับหมูกรอบร้อน ๆ หรือข้าวหมูกรอบได้เลย!
เคล็ดลับ:
-
ถ้าชอบรสจัด ให้เพิ่มพริกขี้หนูสับตอนจะเสิร์ฟ
-
ใช้ซีอิ๊วดำหวานแท้จะช่วยให้สีเข้มและรสกลมกล่อม
-
น้ำจิ้มนี้เก็บใส่ขวดสะอาด แช่เย็นได้ 5–7 วัน
27.สูตรน้ำจิ้มปลาเผา (แบบน้ำจิ้มซีฟู้ดใส)
ส่วนผสม:
-
พริกขี้หนูสวน 10–15 เม็ด (เผ็ดตามชอบ)
-
กระเทียม 6 กลีบ
-
รากผักชี 1–2 ราก
-
น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลทราย)
-
ผักชีหรือสะระแหน่ (สำหรับโรยหน้า เพิ่มความหอม)
วิธีทำ:
-
โขลกหรือปั่นพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้พอละเอียด
-
ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บลงไป คนหรือปั่นให้เข้ากัน
-
ชิมรสให้ เปรี้ยวนำ เค็มตาม เผ็ดจัด และหวานนิด ๆ
-
ตักใส่ถ้วย โรยผักชีหรือสะระแหน่ซอยเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:
-
ใช้ น้ำมะนาวสด จะหอมสดชื่นกว่ามะนาวขวด
-
ถ้าทำเผื่อไว้หลายมื้อ ให้แยก น้ำมะนาว ใส่ตอนจะทาน เพื่อรักษาความเปรี้ยวสด
-
สำหรับคนไม่กินเผ็ด: ลดพริกลงและเพิ่มกระเทียมเพื่อความกลมกล่อม
28.สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ทอด (น้ำจิ้มหวานเปรี้ยวใส่ถั่ว)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
เกลือ ¼ ช้อนชา
-
พริกชี้ฟ้าสีแดงหรือพริกจินดาแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (หรือน้อยกว่าสำหรับไม่เผ็ด)
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีซอย (โรยหน้า – ตามชอบ)
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า และเกลือลงหม้อ
-
ตั้งไฟกลาง คนให้ส่วนผสมละลายและเดือด เคี่ยวประมาณ 5 นาที
-
ใส่กระเทียมและพริกสับลงไป เคี่ยวต่ออีก 1–2 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นเล็กน้อย แล้วเติมถั่วลิสงคั่วบด
-
โรยหน้าด้วยผักชีซอย พร้อมเสิร์ฟคู่เต้าหู้ทอดร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ถ้าชอบรสเปรี้ยวมาก ให้เพิ่มน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
-
ใช้ น้ำมะขามเปียกแทนน้ำส้มสายชู ก็จะได้รสเปรี้ยวนุ่มขึ้น
-
ถั่วลิสงควรคั่วใหม่ ๆ และบดหยาบ จะได้ความกรุบกรอบหอมมัน
29.สูตรน้ำจิ้มแหนม (รสจัดจ้านแบบอีสาน)
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสดซอย 2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
กระเทียมกลีบเล็กซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บลงในถ้วย คนให้ละลายเข้ากัน
-
เติมพริกขี้หนูสดและกระเทียมซอยลงไป คนให้ทั่ว
-
ใส่ข้าวคั่วและผักชีฝรั่งซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
-
ชิมรสให้ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานกลมกล่อม ตามชอบ
-
เสิร์ฟคู่กับแหนมทอด หรืออาหารอีสานต่าง ๆ เช่น ลาบ น้ำตก
เคล็ดลับ:
-
ใช้ข้าวคั่วใหม่ ๆ จะหอมมาก
-
ถ้าชอบน้ำจิ้มข้น ๆ เพิ่มข้าวคั่วอีกหน่อยได้
-
สามารถเติมพริกป่นสำหรับความเผ็ดที่เข้มขึ้น
-
ใช้ผักชีฝรั่งแทนผักชีธรรมดาจะได้กลิ่นหอมเฉพาะตัว
30.สูตรน้ำจิ้มหมูแดดเดียว (น้ำจิ้มแจ่วสไตล์แซ่บ ๆ)
ส่วนผสม:
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกป่น 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-
หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบ)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บในถ้วย คนจนน้ำตาลละลาย
-
เติมพริกป่นและข้าวคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
-
ใส่หอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง และต้นหอมซอย คลุกเบา ๆ
-
ชิมรสให้ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด และหวานเล็กน้อย ปรับตามชอบ
-
เสิร์ฟพร้อมหมูแดดเดียวทอดกรอบ ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้ข้าวคั่วใหม่จะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดี
-
หอมแดงซอยสดช่วยเพิ่มความหอมและความกรอบกรุบ
-
น้ำจิ้มนี้เหมาะกับหมูแดดเดียว หมูปิ้ง หรือเนื้อแดดเดียว
-
เก็บในตู้เย็นได้ 2-3 วัน แต่แนะนำทำน้ำจิ้มใหม่สด ๆ จะดีที่สุด
31.สูตรน้ำจิ้มเนื้อย่าง (แจ่วรสแซ่บ)
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกป่น 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบ)
-
ใบสะระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ:
-
ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย
-
เติมพริกป่นและข้าวคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
-
ใส่หอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง ต้นหอม คลุกเบา ๆ
-
ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ดเล็กน้อย ปรับได้ตามชอบ
-
โรยใบสะระแหน่ก่อนเสิร์ฟเพิ่มความหอมสดชื่น
-
เสิร์ฟพร้อมเนื้อย่างร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้ข้าวคั่วใหม่จะหอมและให้รสชาติที่ดี
-
ถ้าชอบน้ำจิ้มข้นขึ้น เพิ่มข้าวคั่วหรือใช้ข้าวคั่วป่นละเอียด
-
ใบสะระแหน่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและความสดชื่น
-
เก็บน้ำจิ้มในตู้เย็นได้ 2-3 วัน แนะนำทำน้ำจิ้มสดใหม่จะอร่อยที่สุด
32.สูตรน้ำจิ้มหมูปิ้ง (รสหวานเค็มกลมกล่อม)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับละเอียด 1-2 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลละลายหมดและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริกขี้หนูและกระเทียมสับลงไป เคี่ยวต่อประมาณ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟคู่กับหมูปิ้งร้อน ๆ เพิ่มรสชาติจัดจ้าน
เคล็ดลับ:
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานตามชอบได้โดยเพิ่มน้ำมะนาวหรือน้ำตาล
-
ใช้น้ำตาลปี๊บแท้จะหอมและหวานกลมกล่อมกว่า
-
ถ้าอยากให้เผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดหรือพริกป่นได้
-
เก็บน้ำจิ้มในตู้เย็นได้ประมาณ 3-4 วัน
33.สูตรน้ำจิ้มไก่ย่าง (รสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
ขิงสดสับละเอียด 1 ช้อนชา (ถ้าชอบ)
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีซอย (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลละลายและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริก กระเทียม และขิงสับลงไป เคี่ยวต่อ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นเล็กน้อย
-
ตักใส่ถ้วย โรยผักชีซอยก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟพร้อมไก่ย่างร้อน ๆ หรือไก่ทอดกรอบ ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้น้ำตาลปี๊บแท้เพื่อรสชาติหวานกลมกล่อม
-
ขิงสดช่วยเพิ่มความหอมและความเผ็ดอ่อน ๆ
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานตามชอบโดยเพิ่มน้ำมะนาวหรือน้ำตาล
-
สามารถเติมน้ำพริกเผาหรือซอสพริกสำหรับความเผ็ดเข้มข้นขึ้นได้
34.สูตรน้ำจิ้มซี่โครงหมู (น้ำจิ้มรสแซ่บกลมกล่อม)
ส่วนผสม:
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
ขิงสดสับละเอียด 1 ช้อนชา (เพิ่มกลิ่นหอม)
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผักชีซอย (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลละลายหมดและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริกขี้หนู กระเทียม และขิงสับลงไป เคี่ยวต่อประมาณ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นเล็กน้อย
-
โรยผักชีซอยก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟพร้อมซี่โครงหมูย่างหรือทอดกรอบ ๆ
เคล็ดลับ:
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานตามชอบด้วยการเพิ่มน้ำมะนาวหรือน้ำตาลปี๊บ
-
ขิงสดช่วยตัดเลี่ยนและเพิ่มความหอม
-
เพิ่มพริกสดหรือน้ำพริกเผาถ้าชอบเผ็ดจัด
-
น้ำจิ้มนี้เก็บในตู้เย็นได้ 2-3 วัน แต่แนะนำทำสดใหม่อร่อยสุดค่ะ
35.สูตรน้ำจิ้มปลาหมึกย่าง (น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ)
ส่วนผสม:
-
น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ปรับตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียม 5 กลีบ
-
รากผักชี 1 ราก
-
ผักชีซอยสำหรับโรยหน้า (ถ้าชอบ)
วิธีทำ:
-
โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด
-
ผสมโขลกกับน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากัน
-
ชิมรสให้ เปรี้ยวนำ เผ็ด เค็ม และหวานเล็กน้อย ปรับได้ตามชอบ
-
ตักใส่ถ้วย โรยผักชีซอยก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟพร้อมปลาหมึกย่างร้อน ๆ หรือซีฟู้ดต่าง ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้น้ำมะนาวสดเพื่อความเปรี้ยวสดชื่น
-
โขลกพริกกับกระเทียมให้ละเอียด จะได้ความหอมและรสชาติดีขึ้น
-
ถ้าอยากได้รสจัดขึ้น เพิ่มพริกขี้หนูหรือใส่น้ำพริกเผาเล็กน้อย
-
น้ำจิ้มนี้สามารถเก็บในตู้เย็นได้ 1-2 วัน แต่แนะนำทำสดใหม่อร่อยกว่า
36.สูตรน้ำจิ้มกุ้งเผา (น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ)
ส่วนผสม:
-
น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ปรับตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียม 5 กลีบ
-
รากผักชี 1 ราก
-
ผักชีซอย (สำหรับโรยหน้า)
-
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเจือจาง)
วิธีทำ:
-
โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด
-
ผสมโขลกกับน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนให้ละลายเข้ากัน
-
เติมน้ำเปล่าถ้าชอบน้ำจิ้มเจือจาง
-
ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม เผ็ด และหวานสมดุลตามชอบ
-
ตักใส่ถ้วย โรยผักชีซอยก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟพร้อมกุ้งเผาร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ใช้น้ำมะนาวสดเพื่อความเปรี้ยวสดชื่น
-
โขลกเครื่องเทศให้ละเอียดเพื่อความหอมและรสชาติที่กลมกล่อม
-
เพิ่มพริกขี้หนูหรือพริกป่นถ้าชอบเผ็ดมากขึ้น
-
เก็บน้ำจิ้มในตู้เย็นได้ 1-2 วัน แนะนำทำสดใหม่จะอร่อยกว่า
37.สูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นปิ้ง (หวาน เค็ม เผ็ดกลมกล่อม)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนน้ำตาลละลายหมดและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริกขี้หนูสับและกระเทียมสับ เคี่ยวต่อ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟคู่กับลูกชิ้นปิ้งร้อน ๆ
เคล็ดลับ:
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานตามชอบได้
-
ใช้น้ำตาลปี๊บแท้จะได้รสหวานกลมกล่อม
-
เพิ่มพริกสดหรือน้ำพริกเผาได้สำหรับความเผ็ดเข้มข้น
-
เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน
38.สูตรน้ำจิ้มปีกไก่ทอด (รสกลมกล่อม เปรี้ยวหวานเผ็ด)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลละลายและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริกขี้หนูและกระเทียมสับลงไป เคี่ยวประมาณ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟพร้อมปีกไก่ทอดกรอบ ๆ
เคล็ดลับ:
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานตามชอบได้
-
ใช้น้ำตาลปี๊บแท้เพื่อรสชาติหวานกลมกล่อม
-
เพิ่มพริกสดหรือน้ำพริกเผาได้ถ้าชอบเผ็ดจัด
-
เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน
39.สูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นทอด (เปรี้ยวหวานเผ็ดนัวร์)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลละลายหมดและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริกขี้หนูสับและกระเทียมสับลงไป เคี่ยวประมาณ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟพร้อมลูกชิ้นทอดกรอบ ๆ
เคล็ดลับ:
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานได้ตามชอบ
-
ใช้น้ำตาลปี๊บแท้เพื่อความหอมและหวานกลมกล่อม
-
เพิ่มพริกสดหรือน้ำพริกเผาเพื่อเพิ่มความเผ็ดเข้มข้น
-
เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน
40.สูตรน้ำจิ้มข้าวเกรียบปากหม้อ (รสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม)
ส่วนผสม:
-
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-
พริกขี้หนูสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบเผ็ด)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
-
ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง
-
คนจนกว่าน้ำตาลละลายหมดและน้ำเริ่มเดือด
-
ใส่พริกขี้หนูสับและกระเทียมสับลงไป เคี่ยวประมาณ 2-3 นาที
-
ปิดไฟ พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
-
เสิร์ฟคู่กับข้าวเกรียบปากหม้อกรอบ ๆ
เคล็ดลับ:
-
ปรับรสเปรี้ยวหวานตามชอบ
-
ใช้น้ำตาลปี๊บแท้เพื่อความหวานกลมกล่อม
-
เพิ่มพริกขี้หนูหรือพริกป่นถ้าชอบเผ็ดจัด
-
เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน
คำแนะนำสำหรับการทำและใช้น้ำจิ้ม
-
เลือกวัตถุดิบสดใหม่
วัตถุดิบสด เช่น พริก กระเทียม มะนาว จะช่วยให้น้ำจิ้มมีกลิ่นหอมและรสชาติดีขึ้นมาก -
ปรับรสตามใจชอบ
ลองชิมและปรับเพิ่ม ลด ความเปรี้ยว หวาน เค็ม ให้เข้ากับรสนิยมของคุณเอง -
ใช้เครื่องปั่นหรือครกโขลกสดใหม่
การโขลกด้วยครก หรือปั่นด้วยเครื่องจะช่วยปล่อยกลิ่นหอมและรสชาติของเครื่องปรุงได้ดีกว่าใช้แบบสำเร็จรูป -
หมักน้ำจิ้มก่อนใช้
สำหรับน้ำจิ้มบางสูตร เช่น น้ำจิ้มสุกี้ หรือน้ำจิ้มแจ่ว ให้หมักไว้สักพักก่อนใช้ เพื่อให้รสชาติเข้ากันดีขึ้น -
เก็บในตู้เย็น
หากทำเกินความต้องการ ให้เก็บน้ำจิ้มในภาชนะปิดสนิทในตู้เย็น จะช่วยคงความสดและรสชาติได้นาน -
ทดลองจับคู่กับอาหารหลากหลาย
น้ำจิ้มแต่ละสูตรเหมาะกับอาหารแต่ละประเภท ลองจับคู่ดู เช่น น้ำจิ้มซีฟู้ดกับอาหารทะเล น้ำจิ้มแจ่วกับปิ้งย่าง จะเพิ่มความอร่อยได้มากขึ้น -
ทำครั้งละน้อย ๆ
ถ้าไม่มั่นใจในการเก็บ ให้ทำทีละน้อย เพื่อความสดใหม่และไม่เสียของ -
เพิ่มความพิเศษด้วยสมุนไพร
ใส่ผักชี ใบสะระแหน่ หรือหอมแดงซอยในน้ำจิ้ม จะช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
ดูสูตรอาหารอื่นๆ เพิ่มเติม (กด)
สงสัยส่วนไหน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ line ID @ptkss.com (กด)