Search
Close this search box.

รวมสุดยอดอาหารอบแห้งน่าลอง ของกินกรุบกรอบที่คุณห้ามพลาด

สารพัด สูตรทำอาหารอบแห้ง

Table of Contents

รวมสุดยอดอาหารอบแห้งน่าลอง  ของกินกรุบกรอบที่คุณห้ามพลาด

รวมสุดยอดอาหารอบแห้งน่าลอง – ของกินกรุบกรอบที่คุณห้ามพลาด ถ้าคุณเป็นสายของว่างหรือคนที่ชอบหาอะไรกรุบกรอบเคี้ยวเพลินๆ ระหว่างวัน อาหารอบแห้งคือคำตอบที่ใช่! ทั้งอร่อย พกพาง่าย เก็บได้นาน แถมยังมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งคาวและหวาน วันนี้เรารวม อาหารอบแห้งน่าลอง ที่ต้องมีติดบ้านไว้ รับรองว่าแต่ละอย่างกรอบ อร่อย และกินเพลินจนหยุดไม่อยู่!

Dried Fruit

สูตรและวิธีทำเชอร์รี่มะเขือเทศอบแห้ง (Cherry Tomato Dried)

 วัตถุดิบ:

  • มะเขือเทศเชอร์รี่ 500 กรัม

  • เกลือป่นเล็กน้อย (ประมาณ ½ ช้อนชา)

  • พริกไทยดำป่น (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

  • น้ำมันมะกอก 1–2 ช้อนโต๊ะ

  • สมุนไพรแห้ง เช่น ออริกาโน โรสแมรี่ หรือไธม์ (ตามชอบ)

วิธีเตรียม:

  1. ล้างมะเขือเทศ ให้สะอาด แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษซับน้ำ

  2. ผ่าครึ่งมะเขือเทศ ทุกลูก (ตามแนวยาวหรือแนวนอนก็ได้)

  3. วางมะเขือเทศหงายผิวตัดขึ้นบนถาดอบที่ปูด้วยกระดาษไข หรือแผ่นซิลิโคนรองอบ

  4. โรยเกลือ พริกไทย และสมุนไพรแห้งเบาๆ

  5. ราดน้ำมันมะกอก ให้ทั่วเล็กน้อย ช่วยให้รสชาติเข้มขึ้นและอบแห้งสวย

วิธีอบ:

  • เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 90–100°C (หรือ 70°C ถ้าใช้พัดลมในเตาอบ)

  • อบมะเขือเทศนาน 4–6 ชั่วโมง หรือจนเนื้อมะเขือเทศแห้งแต่ยังมีความยืดหยุ่น (ไม่แข็งกรอบเกินไป)

  • คอยพลิกหรือหมุนถาดทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้แห้งสม่ำเสมอ

  • พักให้เย็นก่อนเก็บใส่ภาชนะปิดสนิท หรือเก็บในตู้เย็นได้นาน 1–2 สัปดาห์

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ถ้าอยากได้สไตล์ Sun-Dried Tomato (แบบอิตาเลียน) สามารถหมักในน้ำมันมะกอก พร้อมกระเทียมและสมุนไพรเพิ่มเติมหลังอบเสร็จ เพื่อเก็บไว้ใช้งานในอาหารตะวันตก เช่น พาสต้า พิซซ่า หรือขนมปังโฮลวีต

  • สามารถเก็บใน ขวดโหลสุญญากาศ หรือ แช่ฟรีซ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  • เติมใน พาสต้า หรือ ผัดกับเบคอน

    • ใช้เป็น หน้าพิซซ่า เพิ่มรสหวานธรรมชาติ

  • ใส่ใน สลัดผัก หรือ สลัดธัญพืช

  • ทานกับ ขนมปัง-ชีส เป็นของว่างสุขภาพแนวเมดิเตอร์เรเนียน

 

สูตรและวิธีทำ ลูกพีชอบแห้ง (Dried Peach)

ลูกพีชอบแห้งเป็นของว่างสุขภาพยอดนิยม รสหวานธรรมชาติ กลิ่นหอม เคี้ยวหนึบพอดี เหมาะสำหรับทานเล่น หรือใส่ในสลัด ขนมปัง หรือซีเรียลยามเช้า

วัตถุดิบ:

  • ลูกพีชสด (สุกปานกลาง) 5–6 ลูก

  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำเปล่า 1 ลิตร

(น้ำมะนาวช่วยให้สีของลูกพีชไม่ดำหลังอบ)

วิธีเตรียม:

  1. ล้างลูกพีชให้สะอาด แล้วผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก

  2. หั่นเป็นชิ้นบาง (ประมาณ 0.5–1 ซม.) ตามแนวนอนหรือแนวยาว

  3. ผสม น้ำมะนาว กับน้ำเปล่า แล้วนำพีชลงแช่ประมาณ 5 นาที

  4. สะเด็ดน้ำ แล้วเรียงพีชลงบนถาดอบ (รองกระดาษไขหรือซิลิโคน)

วิธีอบ:

  • เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 60–70°C (หรือต่ำกว่า หากใช้โหมดอบแห้ง/Dehydrate)

  • อบลูกพีชนาน 6–10 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความชื้นของพีชและความหนา)

  • ทุกๆ 2–3 ชั่วโมง ให้พลิกพีช 1 ครั้ง เพื่อให้แห้งสม่ำเสมอ

  • เมื่อแห้งแต่ยังนุ่ม เคี้ยวได้แบบหนึบๆ แล้ว นำออกมาพักให้เย็นสนิท

เคล็ดลับ:

  • ถ้าอยากให้หวานขึ้นเล็กน้อย สามารถเคลือบน้ำผึ้งบางๆ ก่อนอบ

  • ใช้เครื่องอบลมร้อน (Dehydrator) จะให้ผลลัพธ์ดีกว่าเตาอบธรรมดา และประหยัดพลังงาน

การเก็บรักษา:

  • ใส่ถุงซิปล็อก หรือภาชนะสุญญากาศ

  • เก็บในอุณหภูมิห้อง 1–2 สัปดาห์ / แช่ตู้เย็นได้นาน 1 เดือน

  • ถ้าแช่ฟรีซในช่องแช่แข็ง จะเก็บได้นานหลายเดือน

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  • ใส่ในซีเรียลหรือโยเกิร์ต

  • ผสมในขนมอบ เช่น มัฟฟิน เค้ก

  • เป็นของว่างเพื่อสุขภาพระหว่างวัน

  • ใช้เป็นท็อปปิ้งบนขนมปังหรือแพนเค้ก

 

สูตรและวิธีทำ Hawthorn Slices อบแห้ง

Hawthorn Slices (แผ่นลูกซานจาอบแห้ง) หรือ แผ่น Hawthorn อบแห้ง ซึ่งนิยมในจีนและเอเชียตะวันออก — ใช้เป็นขนม หรือสมุนไพรบำรุงสุขภาพ เช่น บำรุงหัวใจ ช่วยย่อยอาหาร

วัตถุดิบ:

  • ผล Hawthorn สด (ลูกซานจา) 500 กรัม

  • น้ำเปล่า 150 มล.

  • น้ำผึ้งหรือน้ำตาล (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบ)

  • มะนาว 1 ลูก (ช่วยรักษาสีและเพิ่มรสเปรี้ยวอ่อนๆ)

หมายเหตุ: Hawthorn มีรสเปรี้ยวจัดตามธรรมชาติ ใครชอบเปรี้ยวล้วนไม่ต้องเติมน้ำตาล

วิธีเตรียม:

  1. ล้าง Hawthorn ให้สะอาด ปาดหัวท้ายแล้วหั่นครึ่ง เอาเมล็ดออก

  2. ปั่นเนื้อ Hawthorn กับน้ำ + มะนาว (และน้ำตาลถ้าต้องการ) ให้เนียน

  3. เทส่วนผสมลงในกระทะหรือหม้อ ตั้งไฟอ่อน กวนเบาๆ 10–15 นาที ให้เนื้อข้นขึ้นเล็กน้อย

  4. เทส่วนผสมที่ได้ลงบนถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข

  5. เกลี่ยให้บาง (ความหนาประมาณ 2–3 มม.) เพื่อให้แห้งเร็วและสม่ำเสมอ

วิธีอบ:

  • อบที่อุณหภูมิ 60–70°C (โหมดลมร้อน หรือใช้เครื่องอบแห้งผลไม้)

  • ใช้เวลาอบประมาณ 6–8 ชั่วโมง หรือจนแห้งสนิท

  • เมื่อแห้งดีแล้ว ปล่อยให้เย็น แล้วตัดเป็นแผ่นหรือวงกลมตามต้องการ

เคล็ดลับ:

  • หากต้องการแผ่นที่เหนียวนุ่มแบบขนม เลิกอบตอนที่ยังมีความชื้นเล็กน้อย (คล้ายผลไม้ม้วน)

  • หากต้องการเก็บได้นาน ให้อบจนแห้งกรอบ (แต่ไม่ไหม้)

  • ป้องกันการติดกันหลังอบ ให้โรยผิวด้วยน้ำตาลบางๆ หรือตัดเป็นชิ้นเล็กก่อนจัดเก็บ

วิธีเก็บรักษา:

  • ใส่ในถุงซิปล็อก/ขวดโหล เก็บในที่แห้ง

  • อย่าให้โดนแดดหรือความชื้น

  • เก็บในตู้เย็นจะอยู่ได้นานขึ้น (3–6 เดือน)

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  • กินเล่นแทนขนมเปรี้ยวหวาน

  • ใส่ในชาร้อน สมุนไพร หรือชาดอกไม้เพื่อเพิ่มรสชาติ

  • ใช้เป็นส่วนผสมในยาจีน/ยาสมุนไพรช่วยย่อย

  • ใช้เป็นของฝากแบบสุขภาพดี

 

สูตรและวิธีทำ หม่อนอบแห้ง (Dried Mulberry)

ผลหม่อน (Mulberry) อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี วิตามินเอ และไฟเบอร์ ช่วยบำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน และดีต่อระบบขับถ่าย

วัตถุดิบ:

  • ผลหม่อนสด (Mulberry) 500 กรัม

  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ (ช่วยคงสี)

  • น้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) – สำหรับคนชอบรสหวานนิดๆ

วิธีเตรียม:

  1. ล้างผลหม่อนให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง (เบามือ เพราะผลบอบบาง)

  2. หากต้องการรสหวานอ่อน ๆ ให้นำไปเคล้ากับน้ำผึ้งเล็กน้อย (1 ช้อนโต๊ะต่อหม่อน 500 กรัม)

  3. วางหม่อนเรียงบนถาดอบที่รองกระดาษไขหรือซิลิโคน ห้ามวางซ้อนกัน

  4. โรยน้ำมะนาวเบาๆ เพื่อช่วยให้สีสวยและไม่คล้ำ

วิธีอบ:

  • อบที่อุณหภูมิ 60–70°C ใช้เวลาประมาณ 8–12 ชั่วโมง

  • หากใช้ เครื่องอบลมร้อน (Dehydrator) จะได้ผลลัพธ์ดีกว่า

  • คอยเช็กทุก 3–4 ชั่วโมง แล้วกลับด้านผลหม่อนเบาๆ

  • หม่อนจะค่อยๆ แห้งตัวลง และมีรสหวานธรรมชาติ

เคล็ดลับ:

  • อย่าอบไฟแรง เพราะจะทำให้ผลหม่อนไหม้ด้านนอกแต่ด้านในยังไม่แห้ง

  • ถ้าต้องการเนื้อกรอบให้อบนานขึ้น แต่ถ้าชอบแบบหนึบ ให้หยุดเมื่อเนื้อยังนุ่มเล็กน้อย

  • หากผลหม่อนมีความเปรี้ยวมาก อาจเคล้ากับน้ำตาลก่อนอบเล็กน้อย

การเก็บรักษา:

  • เก็บใน ขวดแก้วหรือถุงซิปล็อกแบบสุญญากาศ

  • วางไว้ในที่แห้ง ไม่โดนแสงแดด

  • แช่ตู้เย็นอยู่ได้นาน 3–6 เดือน

  • แช่ช่องฟรีซจะอยู่ได้นานถึง 1 ปี

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  • ทานเล่นแทนขนมหวานหรือของทอด

  • ใส่ในโยเกิร์ต ซีเรียล หรือกราโนล่า

  • ใช้เป็นท็อปปิ้งเบเกอรี่ ขนมปัง หรือมัฟฟิน

  • ต้มชงเป็นชาเพื่อสุขภาพ

  • ผสมในสลัดผักหรือสลัดผลไม้

 

สูตรและวิธีทำ องุ่นอบแห้ง (Raisins)

วัตถุดิบ:

  • องุ่นสด (พันธุ์ที่ไม่หวานจัดเกินไป เช่น องุ่นเขียว หรือองุ่นแดง) 500 กรัม

  • น้ำมะนาว 1–2 ช้อนโต๊ะ (ช่วยรักษาสีและป้องกันการดำ)

วิธีเตรียม:

  1. ล้างองุ่นให้สะอาดอย่างเบามือ เพราะเปลือกบาง

  2. นำองุ่นแช่ในน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า (1 ลิตรน้ำ + น้ำมะนาว) ประมาณ 5–10 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ดำและช่วยให้สีสวย

  3. สะเด็ดน้ำและซับให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษซับน้ำ

วิธีอบ:

  • เรียงองุ่นบนถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข ไม่ให้ลูกองุ่นซ้อนกัน

  • เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 50–60°C (ต่ำและช้าเพื่อรักษาคุณภาพ)

  • อบประมาณ 12–18 ชั่วโมง หรือจนองุ่นหดตัว แห้งและย่นเหมือนลูกเกด

  • คอยพลิกองุ่นทุก 3–4 ชั่วโมง เพื่อให้อบแห้งทั่วถึงกัน

  • ถ้าใช้เครื่องอบลมร้อน (Dehydrator) จะทำให้ง่ายและเร็วกว่า

เคล็ดลับ:

  • อย่าอบไฟแรงเกินไปเพราะจะทำให้ด้านนอกไหม้แต่ด้านในยังไม่แห้ง

  • หากต้องการลูกเกดที่นุ่มกว่า ให้หยุดอบเมื่อเนื้อองุ่นยังไม่แห้งมาก

  • สำหรับองุ่นพันธุ์มีเปลือกหนา เช่น องุ่นดำพันธุ์ทับทิม อาจต้องอบนานขึ้น

การเก็บรักษา:

  • ใส่ในถุงซิปล็อกหรือภาชนะสุญญากาศ

  • เก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด

  • แช่ตู้เย็นจะเก็บได้นาน 3–6 เดือน

  • แช่ช่องฟรีซได้ 1 ปี

ประโยชน์และการใช้:

  • กินเล่นแทนขนมหวาน

  • ใส่ในซีเรียล โยเกิร์ต หรือกราโนล่า

  • ใช้ในขนมอบ เช่น เค้ก คุกกี้ มัฟฟิน

  • เติมในสลัดผลไม้เพื่อความหวานธรรมชาติ

  • ใช้ทำไวน์ ผลิตภัณฑ์จากองุ่น หรือเป็นส่วนผสมในอาหาร

 

สูตรและวิธีทำ แอปเปิ้ลอบแห้ง (Dried Apple)

วัตถุดิบ:

  • แอปเปิ้ลสด (พันธุ์ที่ชอบ เช่น Fuji, Granny Smith) 3–4 ลูก

  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ (ช่วยรักษาสีไม่ดำ)

  • อบเชยผง (Cinnamon Powder) 1 ช้อนชา (ถ้าชอบกลิ่นอบเชย)

วิธีเตรียม:

  1. ล้างแอปเปิ้ลให้สะอาด

  2. ปอกเปลือกหรือไม่ปอกก็ได้ตามชอบ

  3. หั่นแอปเปิ้ลเป็นแว่นบาง ๆ หนาประมาณ 3-5 มม.

  4. แช่แอปเปิ้ลในน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า (น้ำ 1 ลิตร + น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ) ประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้แอปเปิ้ลดำ

  5. สะเด็ดน้ำและซับให้แห้ง

  6. หากชอบ ให้โรยผงอบเชยเล็กน้อย คลุกเคล้าเบาๆ ให้ทั่วแอปเปิ้ล

วิธีอบ:

  • วางแอปเปิ้ลบนถาดอบที่รองด้วยกระดาษไขหรือซิลิโคน ไม่ให้แอปเปิ้ลซ้อนกัน

  • เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 55–65°C

  • อบนานประมาณ 6–10 ชั่วโมง หรือจนแอปเปิ้ลแห้งดีแต่ยังมีความยืดหยุ่น ไม่แข็งเกินไป

  • กลับด้านแอปเปิ้ลทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้แห้งสม่ำเสมอ

เคล็ดลับ:

  • ถ้าอยากได้รสหวานมากขึ้น สามารถพ่นน้ำผึ้งบางๆ ก่อนอบ

  • การใช้เครื่องอบลมร้อน (Dehydrator) จะทำให้ควบคุมอุณหภูมิและเวลาง่ายขึ้น

  • ถ้าอบนานเกินไปแอปเปิ้ลจะกรอบเหมือนขนมขบเคี้ยว (ถ้าชอบแบบนี้)

การเก็บรักษา:

  • ใส่ในภาชนะปิดสนิท หรือถุงซิปล็อก

  • เก็บในที่แห้งและเย็น

  • สามารถเก็บในตู้เย็นได้นาน 1-2 เดือน

  • แช่ช่องฟรีซได้นาน 6 เดือนขึ้นไป

การใช้ประโยชน์:

  • กินเล่นเป็นของว่างสุขภาพ

  • ใส่ในซีเรียลหรือโยเกิร์ต

  • ใส่ในขนมอบ เช่น เค้ก หรือมัฟฟิน

  • ทำเป็นท็อปปิ้งในสลัดผลไม้

  • ใช้ทำชาชงหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

 

สูตรและวิธีทำลำไยอบแห้ง

อุปกรณ์

  • เตาอบ / เครื่องอบลมร้อน

  • มีด / เขียง

  • ถาดอบ (รองด้วยตะแกรงหรือลวด)

  • ภาชนะเก็บ (ถุงซิปล็อก / ขวดโหล)

วัตถุดิบ

  • ลำไยสด (เลือกลำไยพันธุ์เนื้อหนา เช่น พันธุ์อีดอ หรือสีทอง)

วิธีทำ

แบบเปลือก (ลำไยอบแห้งทั้งเปลือก – เก็บได้นาน):

  1. ล้างลำไยให้สะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง

  2. อบที่อุณหภูมิ 60–70°C

    • วางลำไยเรียงบนตะแกรง

    • อบต่อเนื่องนาน 30–48 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับปริมาณและความชื้น)

    • พลิกกลับทุก 6–8 ชั่วโมง เพื่อให้แห้งทั่วถึง

  3. เก็บในที่เย็นและแห้ง อายุเก็บได้นาน 6 เดือน – 1 ปี

แบบนี้ใช้สำหรับ ทำขาย หรือเก็บไว้ต้มน้ำสมุนไพร

แบบแกะเปลือก (อบแบบกินเล่น – หอม นุ่ม เคี้ยวเพลิน):

  1. ล้างและปอกเปลือกลำไย

    • ใช้มีดบั้งแล้วเอาเมล็ดออก ให้ได้เนื้อลำไย

  2. อบที่อุณหภูมิ 55–65°C

    • เรียงเนื้อบนตะแกรง ไม่ให้ซ้อนกัน

    • อบ 10–18 ชั่วโมง หรือจนแห้งแต่ยังมีความเหนียวนุ่ม

    • พลิกชิ้นเนื้อทุก 2–3 ชั่วโมง

  3. พักให้เย็น แล้วเก็บในถุงหรือโหลแห้ง

ใช้กินเล่น / ทำขนม / ชงชาร้อน

เคล็ดลับ:

  • ถ้าลำไยมีความหวานธรรมชาติ จะไม่จำเป็นต้องเติมน้ำตาล

  • อย่าอบที่อุณหภูมิสูงเกินไป จะทำให้เนื้อแข็งและดำ

  • หากอบแบบมีเปลือก ใช้ถุงผ้าใส่ลำไยก่อนอบ จะช่วยให้อบได้สม่ำเสมอ

 

สูตรและวิธีทำแก้วมังกรอบแห้ง (เนื้อแดง)

อุปกรณ์ที่ต้องมี

  • มีด / เขียง

  • ถาดอบ (รองด้วยกระดาษไขหรือใช้ตะแกรง)

  • เตาอบ / เครื่องอบลมร้อน (dehydrator)

  • ถุงซิปล็อก หรือโหลแก้วสำหรับเก็บ

วัตถุดิบ

  • แก้วมังกรเนื้อแดง (เลือกลูกสุกจัด เนื้อแน่น หวาน)

  • น้ำมะนาว (ไม่จำเป็น แต่ช่วยให้รสเปรี้ยวสดชื่นและรักษาสี)

ขั้นตอนทำ (แบบเตาอบ)

1. เตรียมผลไม้

  • ปอกเปลือกแก้วมังกร

  • หั่นเป็นแว่นบาง ๆ ประมาณ 5–6 มม. (อย่าบางเกินไปเพราะจะแข็ง)

2. แช่น้ำมะนาว (ถ้าต้องการ)

  • แช่ชิ้นผลไม้ในน้ำมะนาวเจือจาง 5 นาที เพื่อช่วยคงสีและเพิ่มรสชาติ

3. เรียงบนถาดอบ

  • วางให้ห่างกัน ไม่ให้ชิ้นซ้อน

4. อบ

  • ตั้งอุณหภูมิที่ 55–65°C

  • ใช้เวลาอบประมาณ 8–12 ชั่วโมง

    • พลิกผลไม้ทุก 2–3 ชั่วโมงเพื่อให้แห้งทั่ว

    • เช็กความแห้ง: ผิวนอกควรแห้งแต่ยืดหยุ่น ไม่เปราะ

5. พักให้เย็นสนิท

  • แล้วเก็บใส่ถุงซิปล็อก / ภาชนะปิดสนิท เก็บไว้ในที่แห้ง

ถ้าใช้เครื่องอบลมร้อน (dehydrator):

  • ตั้งอุณหภูมิ 55°C

  • อบประมาณ 10–14 ชั่วโมง

  • ผลลัพธ์จะสม่ำเสมอกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่าเตาอบ

ผลลัพธ์

  • เนื้อเหนียวหนึบ สีแดงสดสวย รสหวานธรรมชาติ

  • ใช้เป็นของว่างเพื่อสุขภาพ หรือใส่ในซีเรียล / สลัดผลไม้แห้งก็ได้

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ไม่ควรเติมน้ำตาล: แก้วมังกรหวานธรรมชาติ

  • ห้ามอบร้อนเกินไป ( >70°C ) เพราะสีจะซีดหรือไหม้

  • ถ้าชื้นมาก ควรอบต่ออีกเล็กน้อย หรือแช่ตู้เย็นเพื่อป้องกันเชื้อรา

 

สูตรและวิธีทำสับปะรดอบแห้ง (Dried Pineapple)

 อุปกรณ์

  • มีด / เขียง

  • ถาดอบ (รองกระดาษไขหรือตะแกรง)

  • เตาอบ / เครื่องอบลมร้อน

  • ภาชนะเก็บ เช่น ถุงซิปล็อก / ขวดโหล

วัตถุดิบ

  • สับปะรดสุก (ควรเลือกพันธุ์ที่หวาน เช่น สับปะรดภูแล หรือสับปะรดศรีราชา)

  • (ไม่จำเป็น) น้ำมะนาวเล็กน้อย – เพื่อให้สีสดใส

วิธีทำ

แบบธรรมชาติ (ไม่ใส่น้ำตาล)

  1. ปอกเปลือกและคว้านตาออก

    • ล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ (ประมาณ 5 มม.) หรือจะหั่นวงก็ได้

  2. (เลือกทำ) แช่น้ำมะนาว

    • แช่ในน้ำมะนาวเจือจาง (1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร) ประมาณ 5 นาที เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสี

  3. เรียงบนถาดอบ

    • เรียงชิ้นสับปะรดบนถาดหรือตะแกรง โดยไม่ให้ซ้อนกัน

  4. อบ

    • อุณหภูมิ: 55–65°C

    • เวลาอบ: 8–14 ชั่วโมง

      • ขึ้นอยู่กับความหนา และความชื้นของผลไม้

      • พลิกกลับทุก 2–3 ชั่วโมง เพื่อให้แห้งสม่ำเสมอ

  5. พักให้เย็น แล้วเก็บ

    • ใส่ภาชนะปิดสนิท เก็บในที่แห้ง หรือแช่ตู้เย็นเพื่อยืดอายุ

แบบเคลือบน้ำตาล (หวานนุ่ม เหมาะสำหรับขนมหรือของว่าง)

  1. ต้มในน้ำเชื่อมเบา ๆ

    • สับปะรดหั่นชิ้นแล้ว ต้มในน้ำเชื่อมอ่อน ๆ (น้ำ : น้ำตาล = 2:1) ประมาณ 10–15 นาที

    • ตักขึ้นแล้วพักให้สะเด็ด

  2. อบ

    • ทำตามขั้นตอนเดียวกับแบบธรรมชาติ แต่ใช้เวลาอบนานขึ้นเล็กน้อย

เหมาะสำหรับคนชอบรสหวานนุ่ม เคี้ยวหนึบ

เคล็ดลับ:

  • อย่าหั่นบางเกินไป ไม่งั้นจะแข็งกรอบ ไม่อร่อย

  • ใช้พัดลมเตาอบถ้ามี ช่วยให้แห้งเร็วขึ้น

  • ถ้าชื้นมาก ให้ทดสอบโดยหักดู ถ้ายืดหยุ่นแต่ไม่เปียก แปลว่าแห้งพอดี

  • เก็บในซองดูดความชื้นถ้าต้องการเก็บนาน

ประโยชน์:

  • ไฟเบอร์สูง

  • พลังงานจากธรรมชาติ

  • ไม่มีสารกันเสีย (ถ้าทำเอง)

 

สูตรและวิธีทำสับปะรดอบแห้ง (Dried Pineapple)

 วัตถุดิบ

  • สับปะรดสุก (ควรเลือกพันธุ์ที่หวาน เช่น สับปะรดภูแล หรือสับปะรดศรีราชา)

  • (ไม่จำเป็น) น้ำมะนาวเล็กน้อย – เพื่อให้สีสดใส

วิธีทำ

แบบธรรมชาติ (ไม่ใส่น้ำตาล)

  1. ปอกเปลือกและคว้านตาออก

    • ล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ (ประมาณ 5 มม.) หรือจะหั่นวงก็ได้

  2. (เลือกทำ) แช่น้ำมะนาว

    • แช่ในน้ำมะนาวเจือจาง (1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร) ประมาณ 5 นาที เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสี

  3. เรียงบนถาดอบ

    • เรียงชิ้นสับปะรดบนถาดหรือตะแกรง โดยไม่ให้ซ้อนกัน

  4. อบ

    • อุณหภูมิ: 55–65°C

    • เวลาอบ: 8–14 ชั่วโมง

      • ขึ้นอยู่กับความหนา และความชื้นของผลไม้

      • พลิกกลับทุก 2–3 ชั่วโมง เพื่อให้แห้งสม่ำเสมอ

  5. พักให้เย็น แล้วเก็บ

    • ใส่ภาชนะปิดสนิท เก็บในที่แห้ง หรือแช่ตู้เย็นเพื่อยืดอายุ

แบบเคลือบน้ำตาล (หวานนุ่ม เหมาะสำหรับขนมหรือของว่าง)

  1. ต้มในน้ำเชื่อมเบา ๆ

    • สับปะรดหั่นชิ้นแล้ว ต้มในน้ำเชื่อมอ่อน ๆ (น้ำ : น้ำตาล = 2:1) ประมาณ 10–15 นาที

    • ตักขึ้นแล้วพักให้สะเด็ด

  2. อบ

    • ทำตามขั้นตอนเดียวกับแบบธรรมชาติ แต่ใช้เวลาอบนานขึ้นเล็กน้อย

เหมาะสำหรับคนชอบรสหวานนุ่ม เคี้ยวหนึบ

เคล็ดลับ:

  • อย่าหั่นบางเกินไป ไม่งั้นจะแข็งกรอบ ไม่อร่อย

  • ใช้พัดลมเตาอบถ้ามี ช่วยให้แห้งเร็วขึ้น

  • ถ้าชื้นมาก ให้ทดสอบโดยหักดู ถ้ายืดหยุ่นแต่ไม่เปียก แปลว่าแห้งพอดี

  • เก็บในซองดูดความชื้นถ้าต้องการเก็บนาน

ประโยชน์:

  • ไฟเบอร์สูง

  • พลังงานจากธรรมชาติ

  • ไม่มีสารกันเสีย (ถ้าทำเอง)

 

สูตรและวิธีทำมะละกออบแห้ง (Dried Papaya)

วัตถุดิบ:

  • มะละกอสุกแบบแข็ง (ไม่เละ) เช่น มะละกอฮอลแลนด์

  • (ไม่จำเป็น) น้ำมะนาว / น้ำผึ้ง สำหรับเพิ่มรสชาติและช่วยถนอมสี

วิธีทำ

แบบไม่หวาน (รสธรรมชาติ)

  1. ล้าง ปอก และหั่น

    • ล้างมะละกอให้สะอาด ปอกเปลือกและคว้านเมล็ดออก

    • หั่นเป็นแท่งหรือแว่น หนา 5–7 มม. เพื่อให้แห้งดีแต่ไม่แข็ง

  2. (เลือกทำ) แช่น้ำมะนาว

    • แช่ในน้ำมะนาวเจือจาง 5 นาที เพื่อคงสีสดใส

  3. เรียงบนถาดอบ

    • วางไม่ให้ซ้อนกัน

  4. อบที่อุณหภูมิ 55–65°C

    • ใช้เวลาอบประมาณ 8–12 ชั่วโมง

    • พลิกชิ้นทุก 2–3 ชั่วโมงเพื่อให้แห้งทั่ว

  5. พักให้เย็น แล้วเก็บ

    • ใส่ถุงซิปล็อกหรือภาชนะปิดสนิท

แบบหวาน (อบเคลือบน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง)

  1. ต้มในน้ำเชื่อมหรือคลุกน้ำผึ้ง

    • แช่ชิ้นมะละกอในน้ำเชื่อมอ่อน ๆ (น้ำ : น้ำตาล 2:1) หรือคลุกน้ำผึ้งบาง ๆ

    • ทิ้งไว้ 15–30 นาที แล้วนำมาพักให้สะเด็ดน้ำ

  2. อบ

    • ทำตามขั้นตอนเหมือนด้านบน แต่อบต่ออีกเล็กน้อยจนแห้ง

จะได้มะละกออบแห้งที่หวานนุ่ม เคี้ยวเพลิน สีเข้มกว่านิดหน่อย

เคล็ดลับ:

  • มะละกอที่เหมาะคือ สุกแบบแข็ง (ไม่เละ) จะให้รสหวานและเนื้อดี

  • หั่นให้ขนาดใกล้เคียงกันเพื่ออบสุกพร้อมกัน

  • อย่าหั่นบางเกินไป จะทำให้กรอบ ไม่เหนียวนุ่ม

  • เก็บในที่แห้ง / ตู้เย็น และใส่ซองดูดความชื้นหากต้องการเก็บนาน

ใช้ทำอะไรได้บ้าง:

  • กินเล่นเป็นของว่างสุขภาพ

  • ใส่ในซีเรียล กราโนลา หรือเบเกอรี่

  • ใช้ตกแต่งขนม เช่น เค้ก ขนมปัง

 

สูตรและวิธีทำ แคนตาลูปฮามี่อบแห้ง (Hami Melon Dried Fruit)

วัตถุดิบ

  • Hami Melon (แคนตาลูปฮามี่สุกจัด – หวาน หอม เนื้อแน่น)

  • (ไม่จำเป็น) น้ำมะนาวหรือน้ำผึ้ง – เพิ่มรสชาติและถนอมสี

วิธีทำ

แบบธรรมชาติ (ไม่ใส่น้ำตาล)

  1. ล้างและปอกเปลือกฮามี่เมลอน

    • คว้านเมล็ดออก แล้วหั่นตามแนวยาวหรือแว่น หนาประมาณ 5–7 มม.

  2. (เลือกทำ) แช่น้ำมะนาวเจือจาง

    • ในน้ำมะนาวผสมกับน้ำสะอาด (อัตราส่วน 1:4) ประมาณ 5 นาที

    • เพื่อคงสีสดและเพิ่มกลิ่นหอมเล็กน้อย

  3. เรียงบนถาดอบ

    • อย่าให้ชิ้นซ้อนกัน

  4. อบ

    • ตั้งอุณหภูมิ 55–65°C

    • อบประมาณ 8–12 ชั่วโมง

    • พลิกกลับทุก 2–3 ชั่วโมง

    • เช็กว่าเนื้อแห้งแต่ยังยืดหยุ่น ไม่เปียกหรือกรอบ

  5. พักให้เย็น แล้วเก็บใส่ถุง/โหล

    • เก็บในที่แห้งหรือในตู้เย็นเพื่อยืดอายุ

แบบหวาน (เคลือบน้ำผึ้ง)

  1. เตรียมผลไม้ตามขั้นตอนด้านบน

  2. คลุกน้ำผึ้งเจือจาง

    • น้ำผึ้ง 1 ส่วน ผสมน้ำอุ่น 1 ส่วน

    • คลุกชิ้นเมลอนบาง ๆ แล้วพักให้สะเด็ดก่อนอบ

  3. อบเหมือนเดิม แต่ใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย

แบบนี้จะได้เนื้อหนึบ รสหวานธรรมชาติ มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง

เคล็ดลับ:

  • เลือกฮามี่เมลอนที่สุกจัดแต่เนื้อแน่น จะได้รสหวานและเนื้อไม่เละ

  • ใช้พัดลมในเตาอบ (ถ้ามี) จะช่วยให้แห้งสม่ำเสมอ

  • ถ้าหลังอบยังชื้นมาก ให้ใส่ถุงพร้อมซองดูดความชื้นหรืออบต่ออีกเล็กน้อย

เหมาะกับ:

  • กินเป็นของว่างเพื่อสุขภาพ

  • ใส่ในโยเกิร์ต ซีเรียล ขนมอบ

  • ทำของฝากหรือบรรจุขาย

 

สูตรและวิธีทำ มะเฟืองอบแห้ง (Dried Star Fruit)

วัตถุดิบ:

  • มะเฟือง (ควรใช้ลูกที่สุกแต่เนื้อแน่น สีเหลืองอมเขียว)

  • (ไม่จำเป็น) น้ำผึ้ง / น้ำมะนาว – เพิ่มรสชาติและคงสี

วิธีทำ

แบบไม่หวาน (ธรรมชาติ)

  1. ล้างมะเฟืองให้สะอาด

    • ไม่ต้องปอกเปลือก

    • หั่นตามขวางเป็นแว่นบาง ๆ (ประมาณ 5 มม.) จะได้เป็นรูปดาวสวยงาม

  2. (เลือกทำ) แช่น้ำมะนาวเจือจาง

    • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 500 มล.

    • แช่ประมาณ 5–10 นาที ช่วยให้ไม่คล้ำและเพิ่มรสเปรี้ยวสด

  3. เรียงชิ้นมะเฟืองบนถาดอบ

    • วางห่างกัน ไม่ซ้อน

  4. อบที่อุณหภูมิ 55–65°C

    • ใช้เวลาอบ 8–12 ชั่วโมง

    • พลิกชิ้นมะเฟืองทุก 2–3 ชั่วโมง

    • เช็กความแห้งโดยลองบิดเล็กน้อย: ควรแห้งแต่ยังนุ่มไม่เปราะ

  5. พักให้เย็น แล้วเก็บ

    • ใส่ถุงซิปล็อก / โหลสุญญากาศ เก็บในที่แห้ง

 

แบบหวาน (เคลือบน้ำผึ้งหรือน้ำตาล)

  1. เตรียมมะเฟืองเหมือนขั้นตอนด้านบน

  2. แช่ในน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งเจือจาง

    • น้ำ : น้ำตาล 2:1 หรือ น้ำผึ้ง 1:1 กับน้ำอุ่น

    • แช่ประมาณ 30 นาที แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ

  3. อบ

    • ใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย (10–14 ชั่วโมง)

    • ควรจับตามองไม่ให้ไหม้ เพราะมีน้ำตาล

ผลลัพธ์จะมีผิวมันวาว รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อเหนียวหอม

เคล็ดลับ:

  • อย่าหั่นบางเกินไป มะเฟืองมีน้ำเยอะ จะเหี่ยวเร็วและไม่สวย

  • ใช้ตะแกรงอบแทนถาดทึบจะช่วยให้แห้งเร็ว

  • ควรเลือกมะเฟืองพันธุ์ที่เนื้อแน่นและไม่ฝาด

เหมาะสำหรับ:

  • ของว่างเพื่อสุขภาพ

  • ใส่ในกราโนลา ขนมอบ

  • ตกแต่งเค้ก ขนม หรือเครื่องดื่ม

  • แปรรูปเพื่อจำหน่าย

Facebook
Twitter
Email
Print

หมวดหมู่

PTKss เราคือผู้นำเข้า
และจัดจำหน่ายเครื่องจักร

จากโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมผลิตอาหารแปรรูป ในราคาขายปลีก และราคาส่งที่เหมาะสม

Set your categories menu in Header builder -> Mobile -> Mobile menu element -> Show/Hide -> Choose menu
Shopping cart
Start typing to see posts you are looking for.