โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต STPP Sodium Tripolyphosphate
ชื่อทั่วไป โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต ,STPP , Sodium Tripolyphosphate
แหล่งกำเนิดสินค้า ประเทศจีน
ประเภทอาหาร วัตถุเจือปนอาหาร
ลักษณะสินค้า เป็นผงหรือเม็ดสีขาวละลายน้ำได้
สูตรทางเคมี Na₅P₃O₁₀
การบรรจุและเก็บรักษา เก็บในภาชนะปิดสนิท ห่างจากแสงแดดและความร้อน
ข้อมูลทั่วไปและการใช้งาน
STPP เป็นสารที่ทำให้การระคายเคืองเมื่อมีการสัมผัส STPP ใช้มากในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ทั้งในอุตสาหกรรมและบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารสัตว์ โลหะ สี เยื่อกระดาษ และเซรามิกส์ แต่ที่ใช้กันมากจะเป็นการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำและพื้นผิวต่าง ๆ
โดย STPP มีคุณสมบัติลดความกระด้างของน้ำช่วยให้การซักล้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นสารบัฟเฟอร์ จับคราบสกปรกและกันไม่ให้สิ่งสกปรกย้อนกลับมาติดพื้นผิวอีก สำหรับในอุตสาหกรรมอาหารจะช่วยเพิ่มการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ป้องกันโปรทีนเสื่อมคุณภาพ รักษาสีสันของผลิตภัณฑ์
สารประกอบฟอสเฟตเป็นสารที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายๆชนิดเช่น อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ อุตสาหกรรมการผลิตนม ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ โดยการผลิตสารประกอบฟอสเฟตนั้นสามารถผลิตได้จากกระดูกสัตว์ หินฟอสเฟต หรือปฏิกิริยาระหว่างไอออนของโลหะกับกรดฟอสฟอริก ซึ่งสารประกอบฟอสเฟตนั้นได้รับการรับรองในเป็นส่วนประกอบของอาหารที่ปลอดภัย(GRAS; Generally Recognized as Safe) จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในประเทศไทยตามประการของกระทรวงสาธารณสุข (2547) นั้นได้มีการกำหนดปริมาณของสารประกอบฟอสเฟตสูงสุดที่สามารถใส่ในผลิตภัณฑ์เนื้อหมัก เช่น ไส้กรอก กุนเชียง แฮม และขาหมูรมควันไว้ที่ 3000 มิลลิกรัม ต่อผลิตภัณฑ์ 1กิโลกรัม
ประโยชน์ด้านต่างๆโดยวัตถุประสงค์ของการใส่สารประกอบฟอสเฟตในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เพื่อ
1. ทำสีของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ให้มีความคงตัว
2. เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ได้นั้นมี รสสัมผัสที่นุ่มและมีความชุ่มฉ่ำมากขึ้น
3. ป้องกันการเกิดกลิ่นและรสชาติที่น่ารับประทาน โดยสารประกอบฟอสเฟตนั้นจะมีฤทธิ์ในการช่วยกันการหืนของอาหาร
4. ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์
5. ลดปริมาณของโซเดียมคลอไรด์ที่ใช้ในกระบวนการแปรรูป
โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต (STPP) หรือ Sodium Tripolyphosphate
เป็นสารประกอบอนินทรีย์ที่มีสูตรทางเคมีคือ Na5P3O10 เป็นเกลือโซเดียมของกรดไตรฟอสฟอริก มีลักษณะเป็นผงสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ละลายน้ำได้ดี
STPP ใช้เป็นสารเติมแต่งอาหารในหลายประเภท เช่น
- อาหารทะเลแปรรูป เช่น กุ้ง ปลา หมึก เพื่อช่วยรักษาความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์
- เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก หมูยอ แหนม เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีขึ้น
- ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ เช่น ขนมปัง เค้ก คุกกี้ เพื่อช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและคงตัวมากขึ้น
- ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ เพื่อช่วยรักษารสชาติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์
STPP มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะ ช่วยให้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์อาหารมีความเหนียว นุ่ม คงตัว และยืดหยุ่นมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีขึ้น
- ช่วยให้ผลิตภัณฑ์อาหารมีสีสันที่สดใสและคงตัว
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารมีความปลอดภัยมากขึ้น
STPP เป็นสารที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าไม่ควรบริโภค STPP เกิน 700 มิลลิกรัมต่อวัน
ข้อควรระวังในการใช้ STPP
- ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 700 มิลลิกรัมต่อวัน
- ไม่ควรใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับเด็กเล็ก
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มี STPP
ในประเทศไทย STPP เป็นสารเติมแต่งอาหารที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้เลขสารบบอาหาร 1342/2550
สงสัยส่วนไหน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ line ID @ptkss.com (กด)