Fish Collagen peptide Powder , คอลลาเจนเปปไทด์ , สารสกัดคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาเป็นผง
ชื่อทั่วไป Fish Collagen peptide Powder , คอลลาเจนเปปไทด์ , สารสกัดคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาเป็นผง
ประเภทอาหาร อาหารทั่วไป สกัดจากสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการประเมิน
ลักษณะสินค้า เป็นผงสีขาว ละลายน้ำได้ดีในน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น
การบรรจุและเก็บรักษา เก็บในภาชนะปิดสนิท ห่างจากแสงแดดและความร้อน
ส่วนผสม สารสกัดคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาเป็นผง 100%
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร มีคอลลาเจนจากปลา
ข้อมูลทั่วไปและการใช้งาน COLLAGEN PEPTIDE คอลลาเจน เปปไทด์
มีลักษณะ ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี สามารถใส่ได้ในอาหารทุกชนิดที่รับประทาน โดยคุณค่าของคอลลาเจนยังอยู่ เป็นคอลลาเจนที่สกัดจากปลาเพราะดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่าคอลลาเจนที่ได้จากหนังหมูถึง 50% โดยปกติคอลลาเจนจะอยู่ในรูปเส้นใย ละลายน้ำยาก และไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคอลลาเจนทั่วไปที่มีน้ำหนักโมเลกุลประมาณ 300,000 คอลลาเจนโมเลกุลขนาดเล็กมีน้ำหนักโมเลกุลเพียงไม่กี่พันเท่านั้น นอกจากนั้นยังละลายน้ำได้ ไม่แข็งตัวแม้มีอุณหภูมิลดลง และดูดซึมสู่ร่างกายได้ง่าย คอลลาเจนผลิตจากเกล็ดและหนังปลา ซึ่งกำจัดแคลเซียมออกอย่างพิถีพิถันแล้ว คอลลาเจนบริสุทธิ์สกัดจากเกล็ดและหนังปลา จากนั้นแปรรูปเป็นผงคอลลาเจนเปปไทด์* สีขาวที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วกว่า ทนความร้อนได้ ละลายน้ำเย็นได้ ง่ายต่อการรับประทานจะมีส่วนช่วยดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวสุขภาพดีและส่งผลดีกับข้อต่อและกระดูกด้วย
COLLAGEN PEPTIDE เป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างคล้ายกับคอลลาเจนที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นทำให้สามารถเข้าไปเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้ตามที่ต้องการ สามารถช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และทำให้เกิดความชุ่มชื้น ช่วยเสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนังของสาว ๆ ให้ผิวดูเนียน กระชับขึ้น
คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเล เป็นสายเปปไทด์ที่มีองค์ประกอบ ของกรดอะมิโนหลายชนิด เช่น Proline Glycine HydroxyProlineช่วยในเรื่องของสุขภาพผิวแล้วคอลลาเจน ยังช่วยสร้างกรดไฮยาลูรอนนิค (Hyaluronic Acid) ที่เป็นตัวช่วยสำคัญที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แถมยังช่วยผลิตอิลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นสามารถทานได้ง่ายโดยการผสมเข้ากับอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทานอยู่แล้วตามปกติ เช่น ข้าว กับข้าว น้ำซุป หรือเครื่องดื่ม เป็นต้น (1ช้อนชาปริมาณ 4,000 มิลลิกรัม) โดยมีปริมาณการใช้งานตั้งแต่ ครั้งละ 1 ช้อนชา เพื่อการดูแลผิวพรรณ (1 ช้อนต่อวัน)
หากต้องการเสริมให้ผิวดูกระจ่างใสหรือส่งเสริมลดอาการปวดข้อให้เพิ่มการทานอีก 1 ช้อนในมื้ออาหารอื่นโดยห่างกัน 8-10 ชั่วโมง หรือทานก่อนนอน โดยจะเห็นผลใน 3-7 วัน ผิวจะรู้สึกว่าลื่นขึ้น และจะเห็นว่าผิวกระจ่างใสในเวลา 14-30 วัน เมื่อผ่านไป 1-2 เดือนจะเห็นว่ารอยหมองคล้ำต่าง ๆ มีการจางลง ส่วนริ้วรอยจะตื้นขึ้นในเวลา 2-3 เดือน โดยการทานอาหารเสริมคอลลาเจนเปปไทด์ 100% อย่างต่อเนื่อง (1 ช้อนต่อวัน)
วิธีรับประทาน : ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์อาหาร อัตราการใช้ 0.5 -2 %
ผสมชงกับเครื่องดื่มได้ตามใจชอบ เช่น กาแฟ นม น้ำผลไม้ ฯลฯ ประมาณ 2-3 ช้อนชา ( 2-3 กรัม )
หรือ วันละ 1 ช้อนชา-3 ช้อนชา ลงในน้ำ 150-200 มล. คนให้ละลายพร้อมดื่มได้ทันที
การทานส่วนใหญ่เพื่อ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวอุ้มน้ำ ชุ่มชื้นเรียบเนียน ลดการเกิดริ้วรอย ลดความหมองคล้ำจากรังสี UV
ประโยชน์ของคอลลาเจนเปปไทด์
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึงเนียนนุ่มชุ่มชื้นการบริโภคคอลลาเจนเปปไทด์ จะช่วยเพิ่มอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและเติมเต็มให้ผิวแน่นอิ่มฟูขึ้น นอกจากนี้ จำนวนอิลาสตินที่เพิ่มขึ้น ยังมีส่วนช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน อ่อนกว่าวัย
- ช่วยบำรุง และฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรง
คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกายประมาณ 1 ใน 3 และจะเสื่อมสภาพไปเมื่อเข้าสู่ช่วยอายุ 30 ปี ร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง การรับประทานอาหารเสริมที่มีคอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen peptide) จะช่วยทดแทนคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพไปได้ ส่งผลให้ผิวพรรณมีความเต่งตึง และชุ่มชื้นมากขึ้น - ช่วยลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม บำรุงผมให้แข็งแรง
คอลลาเจนเปปไทด์จะช่วยเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตโปรตีนไฟเบอร์มากขึ้น ซึ่งโปรตีนไฟเบอร์เหล่านี้คือส่วนประกอบของโครงสร้างเส้นผม ถ้าเส้นผมเราขาดโปรตีนไฟเบอร์แล้ว เส้นผมจะอ่อนแอและขาดหลุดร่วงง่าย เกล็ดผมปิดไม่สนิท ผมจึงแห้งกร้าน ชี้ฟูและแตกปลาย
ดังนั้นคอลลาเจนเปปไทด์จึงมีบทบาทสำคัญ ช่วยทำให้เส้นผมของเราหนาขึ้น แข็งแรงสุขภาพดี ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย ช่วยให้เส้นผมดกดำเงางาม และนุ่มลื่นมีน้ำหนัก - ช่วยเพิ่มน้ำในข้อต่อ ลดการเสียดสีของข้อเข่า
คอลลาเจนเปปไทด์มีส่วนสำคัญที่ช่วยในการลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อโดยมีสารสำคัญ คือ เอพพิโทพส์ (Epitopes) โดยจะไปหยุดกระบวนการทำลายของกระดูกอ่อน ซึ่งจะช่วยต้านการอักเสบ ช่วยลดการเสียดสีของข้อเข่า และช่วยทำให้เคลื่อนไหวข้อได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมมีอาการดีขึ้น
สงสัยส่วนไหน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ line ID @ptkss.com (กด)