ชื่อทั่วไป Dextrose Monohydrate เด็กโตส โมโนไฮเดรต
แหล่งกำเนิดสินค้า ประเทศจีน (China)
ประเภทอาหาร สารให้ความหวานธรรมชาติ
ลักษณะสินค้า ผลึกของน้ำตาลกลูโคส มีสีขาว ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย
การละลาย ละลายในน้ำ หลังจากละลายจะได้สารละลายใส
สูตรทางเคมี C6H12O6· H2₂O
การบรรจุและการเก็บรักษา เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทห่างไกลความร้อนและแสงแดด
ข้อมูลทั่วไปและการใช้งาน
Dextrose Monohydrate เป็นสารให้ความหวานธรรมชาติ (Natural Sweetener) เป็นรูปแบบผลึกของน้ำตาลกลูโคส มีสีขาว ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย ใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตวิตามินซีได้ ใช้ผสมทำน้ำเชื่อชนิดต่างๆ เช่น Sorbitolได้ ใช้แทนน้ำตาล ผสมในเครื่องดื่ม ขนมหวาน เบเกอรี่ หรือ ไอศกรีมได้ โดยให้แคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลนิดหน่อย มีโครงสร้างเป็นประเภท Monosaccharide
Dextrose (เดกซ์โตส) หรือน้ำตาลกลูโคส เป็นน้ำตาลธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ผลิตจากแป้งข้าวโพดและมักใช้เป็นสารให้ความหวานในขนม Dextrose monohydrate คือ เป็นผลึกบริสุทธิ์ของน้ำตาล D-glucose ที่มีโมเลกุลของน้ำ 1 โมเลกุล ผลิตจากน้ำเชื่อมกลูโคส (glucose syrup ) ที่มีค่า Dextrose equivalent (DE) สูง ด้วยการตกผลึก (crystallization) ด้วยเครื่องตกผลึก (crystallizer) โดยควบคุมการตกผลึกที่อุณหภูมิต่ำเป็นชื่อที่ใช้เรียกผลึกน้ำตาลกลูโคส (glucose) ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) ที่จัดอยู่ในกลุ่มของ อัลโดเฮกโซส (aldohexose) อัลโดเฮกโซส คือ น้ำตาลที่มีอะตอมของ คาร์บอนอยู่ 6 อะตอม และเป็นอนุพันธ์อัลดิไฮด์ (aldehyde derivatives) คือมีกลุ่มคาร์บอนิล (carbonyl group) อยู่ที่ปลาย นอกจากนี้มีการจัดเรียง ตัวของอะตอมคาร์บอนเป็นรูปหกเหลี่ยม ซึ่งเรียกว่าไพราโนส (pyranose)
เดกซ์โตสโมโนไฮเดรต มีลักษณะเป็นผงขนาดเล็กสีขาว มีรสหวาน โดยสามารถละลายในน้ำได้ทั้งหมด ซึ่งหลังการละลายจะเป็นสารละลายใส สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์เบเกอร์รี่ได้ เนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ทำให้การขึ้นฟูของยีสต์เป็นไปได้ดี เพราะยีสต์สามารถนำน้ำตาลที่มีอยู่ในสูตร ซึ่งเป็นโมเลกุลเดี่ยวไปใช้ได้เลยทันที ในระหว่างการหมักโด ในขณะที่น้ำตาลทราย ซึ่งอยู่ในรูปของน้ำตาลไอซิ่งหรือน้ำตาลซูโครสจะเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ (ประกอบไปด้วยน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรุกโตส) ยีสต์ต้องใช้เวลาในการนำน้ำตาลไปใช้นานกว่า
ประโยชน์ด้านต่างๆ
Dextrose monohydrate รายละเอียดผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตร
เทคโนโลยีชีวภาพ การผลิต dextrose monohydrate ใช้แป้งข้าวโพดเป็นวัตถุดิบ ใช้เทคนิค double anzyme เพื่อเปลี่ยนแป้งข้าวโพด ลงในน้ำเดกซ์โทรส จากนั้นผ่านกระบวนการของความเข้มข้น เพื่อทำการตกผลึก การคายน้ำ การไล่ระดับ และการระเหย จนกลายเป็นเกล็ดแก้วหกเหลี่ยมสีเทา dextrose monohydrate มันถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหาร และเครื่องดื่มเป็นวัสดุทดแทน ในสถานที่ของสารให้ความหวาน เช่นน้ำตาล อ้อย นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวัตถุดิบ ในการผลิตวิตามินซี และซอร์บิทอล
ไม้ผลทุกชนิดเมื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์ก่อนออกดอกจะต้องงดน้ำ หลังออกดอกติดผลแล้วจึงจะให้น้ำอีกครั้ง ดอกร่วงเกิดจากสารอาหารที่สะสมไว้ไม่เพียงพอ(ใส่ปุ๋ยน้อย) หรือ การให้น้ำเกิดการแตกยอดอ่อนธรรมชาติต้นไม้จะเคลื่อนสารอาหารเลี้ยงยอดอ่อน หรือธาตุอาหารที่ให้ไม่สมดุลและเพียงพอ เช่น ใส่ปุ๋ยตัวกลางสูง(P)มากเกินไปจะทำให้ขาดธาตุสังกะสี(Zn)ซึ่งเป็นธาตุที่พืชนำไปใช่ร่วมกับธาตุไนโตรเจน(N)ในการสร้างฮอร์โมนออกซิน ทำให้ขั้วดอกและผลเหนียวไม่หลุดร่วงง่าย
1. น้ำตาลทางด่วน นิยมฉีดพ่นให้กับไม้ผล ในช่วงที่ประสบปัญหาสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น สภาวะแล้งรุนแรงหรือหลังจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ระบบรากทำงานได้ไม่เป็นปกติ เมื่อพืชดูดซึมผ่านทางใบจะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีส่วนผสมน้ำ น้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งให้พลังงานที่เซลสิ่งมีชีวิตนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง
2. พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลังจากฉีดพ่นตามทรงพุ่มแล้ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
3. ส่วนผสมของน้ำตาลทางด่วน มีส่วนผสมของน้ำตาลกลูโคส 600 กรัม กรดฮิวมิก 20 ซีซี ปุ๋ยเกล็ด สูตร 15-30-15 หรือสูตร 10-20-30 อัตรา 60 กรัม สารเคมีกำจัดเชื้อรา เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ หรือคาร์เบนดาซิม ตามอัตราแนะนำ และสารจับใบ ละลายในน้ำ 1 ปี๊บ ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่มเพียง 1-2 ครั้ง ในตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ จะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
เหมาะสำหรับการใช้งาน
- เบเกอรี่
- ขนมปัง 6-8%
- โรลและขนมปังก้อน 10-15%
- คุกกี้
- เค้ก โดนัท 25%
- ชา กาแฟ ไวน์
- ผลไม้
- ไอศกรีม
- ลูกกวาด
- ผลิตเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผงและน้ำ
เด็กโตส โมโนไฮเดรต (Dextrose Monohydrate)
เป็นสารให้ความหวานธรรมชาติชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นผงสีขาว ละลายในน้ำได้ทั้งหมด ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย มีพลังงานประมาณ 4 แคลอรีต่อกรัม
เด็กโตส โมโนไฮเดรต มักใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เบเกอรี่ ขนมหวาน เครื่องดื่ม ไอศกรีม เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การผลิตยาและสารเคมี
ประโยชน์ของเด็กโตส โมโนไฮเดรต
เด็กโตส โมโนไฮเดรต มีประโยชน์มากมาย ดังนี้
- ให้ความหวาน เด็กโตส โมโนไฮเดรต ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย จึงนิยมใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่ม
- มีพลังงาน เด็กโตส โมโนไฮเดรต มีพลังงานประมาณ 4 แคลอรีต่อกรัม จึงสามารถใช้เป็นพลังงานทดแทนได้
- ละลายน้ำได้ง่าย เด็กโตส โมโนไฮเดรต ละลายในน้ำได้ทั้งหมด จึงสะดวกต่อการใช้งาน
ข้อควรระวังในการรับประทานเด็กโตส โมโนไฮเดรต
เด็กโตส โมโนไฮเดรต เป็นสารให้ความหวานชนิดหนึ่ง จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้ได้รับพลังงานมากเกินไป
ตัวอย่างการใช้งานเด็กโตส โมโนไฮเดรต
เด็กโตส โมโนไฮเดรต สามารถใช้ในอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายเมนู เช่น
- เบเกอรี่: เค้ก คุกกี้ ขนมปัง เป็นต้น
- ขนมหวาน: ไอศกรีม เยลลี่ ช็อกโกแลต เป็นต้น
- เครื่องดื่ม: ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นต้น
วิธีใช้เด็กโตส โมโนไฮเดรต
เด็กโตส โมโนไฮเดรต สามารถผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ได้ตามต้องการ เช่น ผสมกับแป้ง นม น้ำ เป็นต้น ปริมาณของเด็กโตส โมโนไฮเดรต ที่ใช้ในการปรุงอาหารขึ้นอยู่กับความชอบและความเข้มข้นของรสชาติที่ต้องการ
Frequently asked questions
เด็กโตสโมโนไฮเดรต น้ำตาลเด็กซ์โตรส ใช้ทำสาโทได้ไหม
ได้ครับ เด็กโตสโมโนไฮเดรต หรือน้ำตาลเด็กซ์โตรส เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวชนิดหนึ่ง สามารถใช้ทำสาโทได้ เนื่องจากยีสต์สามารถหมักน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวได้เร็วกว่าน้ำตาลโมเลกุลคู่ เช่น น้ำตาลทราย (ซูโครส) ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรุกโตส
เด็กโตสโมโนไฮเดรตเป็นน้ำตาลที่มีรสหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย แต่มีปริมาณแคลอรีต่ำกว่าเล็กน้อย สามารถใช้แทนน้ำตาลทรายในการทำอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายชนิด รวมถึงสาโท
ในการทำสาโทด้วยเด็กโตสโมโนไฮเดรต สามารถทำได้ตามขั้นตอนทั่วไปดังนี้
- เตรียมส่วนผสม ได้แก่ ข้าวสุก น้ำเปล่า ยีสต์ และเด็กโตสโมโนไฮเดรต
- ใส่ข้าวสุกลงในภาชนะ เติมน้ำเปล่าตามปริมาณที่ต้องการ จากนั้นคนให้เข้ากัน
- ใส่ยีสต์และเด็กโตสโมโนไฮเดรตลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
- ปิดฝาภาชนะ นำไปตั้งไว้ในที่อบอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 วัน
- เมื่อสาโทมีฟองฟูและมีกลิ่นหอม ก็สามารถนำมาดื่มได้
ปริมาณของเด็กโตสโมโนไฮเดรตที่ใช้ในการทำสาโท สามารถปรับได้ตามความต้องการ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10-20% ของน้ำหนักข้าวสุก
นอกจากเด็กโตสโมโนไฮเดรตแล้ว ยังสามารถเลือกใช้น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวชนิดอื่น ๆ ในการทำสาโทได้ เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมข้าวโพด น้ำเชื่อมกลูโคส เป็นต้น
สงสัยส่วนไหน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ line ID @ptkss.com (กด)